วันพุธที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ลบหลู่เจ้าที่ !!



       
           สวัสดีครับวันนี้เรามีประสบการณ์จะมาเล่าให้ฟังเราชื่อว่าท๊อป ปัจจุบันเป็นเณรจำพรรษาอยู่ที่ร้อยเอ็ด เราเป็นคนมีสัมผัสพิเศษตั้งแต่ไหนแต่ไร ไปที่ไหนก็สัมผัสถึงวิญญาณจนเป็นเรื่องปกติ แต่ส่วนที่เป็นตัวเป็นตนก็จะเป็นคนรอบๆข้างมากกว่า เพราะเมื่อเราไปที่ไหนก็เหมือนจะเป็นตัวสื่อให้เค้าสามารถปรากฏตัวออกมาได้ เรื่องที่เราจำได้และไม่มีทางลืมได้เลยก็มีอยู่เรื่องหนึ่ง พอจะเป็นสิ่งเตือนใจได้ว่าถ้าเราไม่ชอบอะไรก็ไม่ต้องสื่อออกมาทั้งหมดก็ได้เดียวจะเจอดีเมื่อปี พ.ศ. 2556 ตอนนั้นเราอยู่ชั้น ม.3 ทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมเข้าค่าย ซึ่งเป็นการเข้าค่ายปฏิบัติธรรมทุกปี แล้วปีนี้ก็ถึงปีของเรา ทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดร้อยเอ็ดและค่อนข้างอยู่ในป่าพ่อสมควรเมื่อเราไปถึงก็ได้จัดแจงที่นอนให้สำเร็จ เพราะที่จะเข้าไปรวมตัวและแบ่งหน้าที่ในของผู้รับผิดชอบ โดยการปฏิบัติธรรมในครั้งนี้ต้องกางเต็นท์ในป่าห่างกัน 10 เมตรแต่เชื่อเถอะว่าไม่มีใครห่างกันขนาดนั้นหรอก พอกางเต็นท์จัดแจงข้าวของเสร็จเราก็เข้าไปรวมตัวกัน เพราะว่าเราได้แบ่งกลุ่มมาจากที่โรงเรียนแล้ว จึงทำให้การแบ่งเป็นเรื่องที่ง่าย กลุ่มของเราก็ได้ดูแลในส่วนหน้าวัดซึ่งติดกับที่กางเต็นท์อยู่พอดี ระหว่างที่เรากำลังทำความสะอาดในบริเวณที่พักอยู่นั้นก็เหลือบไปเห็นเพื่อนของเรา มันกำลังทำอะไรไม่รู้อยู่หน้าศาลกลางป่า สักพักเพื่อนก็สะดุ้งแล้วรีบวิ่งกลับมายังที่พักอย่างกับกลัวอะไรสักอย่าง เราเองด้วยความเป็นหวงเพื่อนเลยเข้าไปถามว่าเป็นอะไร "เมื่อกี้ตอนกูเดินเล่นอยู่ในป่า ก็ไปเห็นศาลตั้งอยู่ริมน้ำ ก็เห็นว่ามันเป็นศาลเก่าๆเลยลองเดินเข้าไปดู แต่ไม่รู้อะที่ทำให้กูรู้สึกไม่ชอบ ก็เลยพูดด่าออกไปว่า ศาลอะไรว่ะเก่าก็เก่า จะพังแหล่ไม่พังแหล่แล้วทำไม ทำไมไม่ทุบทิ้งไปเลยวะ คนเค้าจะเล่นน้่ำกัน" เท่านั้นแหละก็เห็นชายแก่คนหนึ่งยืนอยู่กลางน้ำไม่มีอะไรไปยืนเป็นฐานได้เลย หน้าตาแกเหมือนจะโกรธมากและทำท่าเหมือนจะมาหาเพื่อนผม เห็นแบบนี้เพื่อก็เลยรีบวิ่งมาที่เต็นท์นั้นเอง พอได้ฟังสิ่งที่เพื่อนเล่าเราก็ขำแล้วบอกกันมันไปว่า "สมควรแล้วละปากหมาดีนัก ถ้าวันนี้หรือพรุ่งนี้เค้าไม่มาหามึงนะ มึงมาเผาเต็นท์กูได้เลย" เพื่อนเราออกอาการอย่างชัดเจนแต่ก็ไม่พูดอะไร แต่พอถึงตอนเย็นสวดมนต์เสร็จคุณครูก็ปล่อยให้เด็กมาพักเราก็รีบเข้าเต็นท์เลยเพราะเพลียมาก ทำให้เราลืมเรื่องตอนหัวค่ำไปเลย ตอนตี 3 เราตอนตื่นมาเพื่อสวดมนต์เช้า ก็เลยไปปลุกเพื่อนทุกคนที่นอนอยู่ และเราก็ไปถึงเต็นท์เพื่อนที่มันไปท้าทายศาลเห็นมันตื่นอยู่เลยถามว่า "เป็นอย่างไร เมื่อคืนหลับสบายดีไหม แต่ดูแล้วท่าทางคงจะไม่ดีสินะ นอนต่างที่แถมยังมานอนพื้นดินแบบนี้คงเป็นหลังสิท่า" เพื่อนหันมามองหน้าเราแล้วบอกว่า "กูยังไม่ได้นอนเลย จะหลับแล้วแหละที่แรก แต่กูได้ยินเหมือนมีเสียงอะไรกำลังขุึ้นจากน้ำ สักพักก็เหมือนมีเสียงคนมาเดินรอบๆเต็นท์ มันเดินรอบเต็นท์ทั้งคืนยังไม่พอนะ ในช่วงที่มันกำลังจะหายไปกูก็ได้ยินเสียงวัวแล้วก็เสียงเกวียน เหมือนขบวนคนเลี้ยงวัวในสมัยโบราณเดินจนกูพึ่งจะเห็นคนในกลุ่มตื่นนี้แหละ" พอเราได้ยินแบบนั้นก็เป็นห่วงเพื่อนกลัวว่าจะเป็นอะไรไป หลังจากทำอะไรต่างๆเสร็จก็ได้ให้เพื่อนไปจุดธูปขอขมาในสิ่งที่ได้พูดกล่าวออกไปถึงเรื่องคุณตาในศาลจะจบไม่มาให้เห็นอีกแต่เรื่องเสียงเกวียนตอนดึกๆก็มีมาให้ได้ยินตลอดจนจบโครงการ เราจึงได้ไปสอบถามกับคนในพื้นที่ก็ได้ความว่าในที่ที่เรากางเต็นท์นอนนั้นเป็นทางผีผ่านไม่แปลกที่จะได้ยินเสียงเกวียนกลางค่ำกลางคืน เพราะคนแถวนี้ได้ยินเป็นปกติแล้ว ส่วนศาลที่สระน้ำก็ไม่มีใครให้คำตอบเราได้แน่ชัดว่าคนที่อยู่ในศาลคือใครและทำไว้นานขนาดไหนแล้วแต่ชาวบ้านก็ไม่ไปหลบลู่อย่างเด็ดขาด เวลาที่ใครจะเข้าไปหาของป่าก็จะไหว้ก่อน ขากลับก็จะหาผลไม้ในป่ามาให้ทุกครั้งไม่เคยขาดจนเราคิดเอาเองว่าน่าจะเป็นเจ้าที่ ที่ดูและในสถานที่แห่งนี้ และเรื่องก็มีเพียงเท่านี้ครับขอขอบคุณผู้ที่มาอ่านทุกท่าน

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...