วันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2561

เพื่อน !!


       ไม่นานมานี้เมื่อผมสอบเสร็จ และเดินทางออกมาจากห้องสอบวันสอบปลายภาคของชั้นปีที่ 3 ผมก็เห็นแต๊กเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันหลายเดือนนั่งอยู่ที่ม้าหินอ่อนหน้าตึกเขานั่งเหม่อแลัวมองไปที่สระน้ำเหมือนกันกำลังคิดอะไรบางอย่างผมกับแต๊กเคยเจอกันบ่อยๆตอนปีหนึ่ง ช่วงที่มีรับน้องของคณะหลังจากนั้นก็แยกกันไปเพราะแต่ละคนก็ต่างไปเรียนคนละสาขาผมเรียนสาขาศิลปการแสดงส่วนแต๊กเรียนสาขาออกแบบสื่อมวลชน พวกเราได้เจอกันบางวิชาบางวันก็เจอกันบ้างไม่เข้าเรียนบ้างผมกับแต๊กก็เลยเจอกันน้อยลง ผมจึงเดินเข้าไปหาเพื่อมาทักทายแต่แต๊กเหมือนจะรู้จึงหันมายิ้มแล้วโบกมือให้ จนผมเดินไปถึงม้าหินอ่อนก็บอกว่า "เห้ยเป็นไงบ้างวะไม่ได้เจอกันตั้งนาน" แต๊กยิ้มแต่ไม่พูดอะไรผมจึงยิ้มตอบแล้วนั่งลงข้างๆ แต๊กหันมาพูดกับผมด้วยเสียงและสายตาที่อ่อนล่าแล้วบอกว่า "กูขอโทดที่เคยดูถูกมึงมาตลอด" ผมก็ตกใจเล็กน้อยที่แต๊กได้พูดถึงเรื่องในอดีตผมก็เลยบอกว่าไม่เป็นไรกูไม่เอาไปคิดหรอก แต๊กเหมือนจะโล่งใจที่เห็นผมไม่คิดอะไร และเขาก็หันไปมองที่สระน้ำแล้วพูดแบบช้าเหมือนคนอ่อนแรงว่า "ชีวิตคนเรานี้มันแปลกนะ จะตายก็ตายแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย มาเตือนกันก่อนเสียเลย" จำไว้เลยนะคนเราจะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้อยากอะไรก็รีบๆทำสะ ผมแปลกใจอยากมากเพราะแต๊กจะไม่เคยพูดอะไรแบบนี้แล้วผมก็ฟังแต๊กพูกเรื่องกรรมและค่าของชีวิตไปอีกสักพักใหญ่ ผมจำไม่ได้แล้วว่าพูดอะไรอีกบ้าง แต๊กเห็นหน้าของผมแบบงงเค้าก็เลยถามผมว่า "มึงอยากรู้ใช่ไหมว่ากูเป็นอะไร" ผมพยักหน้ารับขณะที่รอฟังว่าแต๊กจะพูอะไรต่อผมก็ได้ยินเสียงชองแจ๊ปเพื่อนอีกคนตะโกนมาจากหน้าตีกว่า "เห้ยมานั่งทำอะไรตรงนี้ว่ะ" ผมหันกลับไปตอบแจ๊ปว่า "เออพวกกูสอบเสร็จแล้วเลยมานั่งคุยกันนิดหน่อย" แต่พอผมหันกับไปหาแต๊กกับต้องอุทานด้วยความตกใจ "อ่าวมันหายไปไหนของมันวะ" ที่นั่งข้างผมมีแต่ความว่างเปล่าผมหันซ้ายหันขวาพยายามมองหาแต๊กเพราะว่าแต๊กลุกออกไปก็ไม่น่าจะเร็วขนาดนั้นแล้วแจ๊ปก็พูดว่า "เห็นกูเห็นมึงนั่งอยู่คนเดียวมาตั้งนานแล้ว นึกว่าซ้อมบทละคร" ตอนนั้นผมคิดว่าแต๊กอาจจะลุกออกไปโดยที่ผมไม่ได้สังเกตุจึงตอบเออ ออกับแจ๊ปไปว่า "เออ กำลังซ้อมบทอยู่นิดหน่อย" พอดีผมเรียบศิลปการแสดงการนั่งซ้อมบทคนเดียวจึงไม่แปลกอะไร จากนั้นผมก็คุณกับแจ๊ปได้สักพัก แล้วขอตัวกลับห้องพักก่อน วันรุ่งขึ้นผมก็ได้รู้ข่าวว่าแต๊กเสียชีวิตในห้องพักที่โรงแรมแถวๆเข้าใหญ่โดยเสียชีวิตมา 4-5 วันแล้ว ขณะที่คนไปพบศพของแต๊กห้องก็ถูกล๊อคจากประตูด้านในภายในห้องไม่มีร่องรอยการต่อสู้หรือทำร้ายร่างการใดๆ เจ้าหน้าที่ก็กำลังหาสาเหตุการตายที่เป็นปริศนาอยู่ ผมตกใจกับข่าวการตายของแต๊กมาก ถ้าเขาตายมาแล้ว 4-5 วันแล้วคนที่ผมนั่งคุยเมื่อวานตั้งนานสองนานนั้นคือใครผมเริ่มขนลุกขึ้นมาทันทีและเข้าใจในสิ่งที่แต๊กพูดเมื่อวานที่บอกว่า "ชีวิตคนเรานี้มันแปลกนะ จะตายก็ตายแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย มาเตือนกันก่อนเสียเลย" นั้นคงจะเป็นวิญญาณของแต๊กมาบอกให้ผมใช้ชีวิตให้คุ้มค่านั้นเอง และเรื่องก็มีเพียงเท่านี้ครับขอขอบคุณผู้ที่มาอ่านทุกท่าน 

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...