วันอังคารที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2561

เจอดีที่ทำงานใหม่ !!



          ตำแหน่งที่ผมทำจ้องต้องไปใกล้ชิดกับแขกดูแลแขกโดยตรง บางที่เรียก บัสเลอร์ ปกติแขกที่มาพักที่นี้จะได้บัสเลอร์ทุกคนว่าใครเป็นคนดูแลแขก วันนั้นแขกที่ผมดูแลเป็นแขกที่มากฮันนีมูล ซึ่งจะได้ไวล์ฟรี รีสอร์ทที่นี้อกแนวป่าต้นไม้เยอะและตัวรีสอร์ท อญู่ใกล้ป่ายางพาราด้วย ตอนนั้นเป็นเวลา 3 ทุ่มผมรู้ว่าแขกจะมาเช็คอินดึก ซึ่งเป็นช่วงผมเลิกงานดึกตอน 4 ทุ่มก็เลยจะตั้งใจว่าจะเอาไวล์มาจัดเตรียมไว้ก่อนเลิกงาน โซนวิลล่าของแขกที่จะมาแบ่งเป็น 2 โซน โซนติดกับป่าและตรงกลางของรีสอร์ท ซึ่งสองโซนนี้ถูกกั้นด้วยโพลงหญ้าเตี้ยๆ และข้ามไปอีกฝั่งด้วยสะพานแขวน ผมตัดสินใจว่าจะไม่ขับรถบัคกี้ไปไปอีกโซนที่คิดกับป่าซึ่งวิลล่าอยู่โซนนั้นด้วยทางที่มืดและเล็ก ตอนนั้นผมยังขับไม่คล่องด้วยทั้งยังไม่เคยขับรถยนมาก่อนด้วยซ้ำก็เลยขับบักกี้ไปจอดที่สะพานแขวนแล้วเดินข้ามไป มือข้างหนึ่งกดมือถือ มืออีกข้างก็โอบถังไวล์ไว้ แลยต้องเดินช้าๆเพราะกลัวของตกแต่พอเดินบนสะพานก้รู้สึกว่า สะพานมันแกว่งแรงมากทั้งทีผมเดินช้าผมก็เลยหันหลังกลับไปมอง กะจะแซวคนข้างหลัวว่าทำไมเดินแรงจัง เพราะคิดว่ามีพนักงานคนอื่นเดินตามกลังมา แต่พอหันหลังกลับไปก็พบว่า มีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังจับหัวสะพานอยู่ ตอนนั้นผมตกใจมากรีบหันหน้ากลับมาแล้วคิดว่าใช้แขกหรือป่าว แต่ก็ไม่กล้าหันหลังกลับไปมองอีก หลังจากนั้นผมรีบซอยเท้าไปยังวิลล่าที่อยู่ตรงหัวมุม สะพานนี้อยู่ต่ำกว่าระดับทางเดินเวลาขึ้นต้องก้าวขึ้นบรรได 5-6 ขั้น จังหวะที่ผมเดินขึ้น ระหว่างสายตาของผมก็มองเห็นที่ช่องว่างใต้บรรได ผมเห็นเงาดำๆกำลังนั่งคุมเข่าอยู่ ความรู้สึกในตอนนั้นใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว เลยรีบเร่งฝีเท้าเดินไปที่วิลล่า พอเข้าไปที่วิลล่าเซ็ตอะไรเสร็จแล้วเรียบร้อย ด้วยความมือดเงียบและด้วยความกลัวมันทำให้ผมไม่กล้าที่จะเดินกลับเล่นทางเดิมนั้นอีก ผมจึงโทรให้เพื่อนที่ฟ้อนมารับแล้วรออยู่ในวิลล่า หลังจากที่วางสายไปได้สักพักหนึ่งก็มีเสียงกริ่งดังขึ้นแต่ไม่ได้มีเสียงเรียกใดๆจากเพื่อนผมผมจึงมองจากทางตาแมวออกไปด้านนอก ตอนนั้นผมเริ่มมีน้ำตาออกมาแล้ว เพราะผมคิดว่าผีหลอกเข้าแล้วจริงๆ ได้แต่อุทานออกมาว่า "อีดอก" สักพักนางก็เรียกชื่อผมแล้วบอกฉันเอง ตอนนั้นผมก็ใจชื้นขึ้นมามากจึงเปิดประตูออกไปก็เห็นว่านางยืนอยู่ข้างๆประดูผมส่องตาแมวออกไปแล้วไม่เห้น หลังจากนั้นผมก็ส่งข้อความเข้ากรุปของแผนกว่า จะไม่มาวิลล่านี้แล้วและก็ไม่ได้อธิบายอะไรต่อหลายวันต่อมาผมกำลังจะกลับบ้านตอน 4 ทุ่มก็ได้เจอพี่ รปภ ของรีสอร์ท ที่เดินสำรวจความเรียบร้อยต่างๆจึงถามเขาว่า ปกติแล้วเขาเดินตรวจทุกที่เลยหรือป่าว ดึกๆไม่กลัวผีหรอ เขาก็ตอบมาว่ากลัวสิแต่มันต้องทำยิ่งตรงหัวโค้งวิลล่านั้นนะ เคยมีผูหญิงมากรีดยางโดนฆ่าข่มขืน คนมักจะโดนหลอกกันอยู่บ่อยๆ ซึ่งในตรงจุดนั้นเป็นทีที่ผมเจอเงานั้นนี่เอง ก่อนเข้างานวันถัดมาปกติแล้วผมจะไปกินข้าวที่แคนทีนของโรงแรม แต่วันนั้นผมรู้ว่าเมนูที่เขาทำเป็นอาหารที่ผมไม่ชอบก็เลยออกไปกินร้านอาหารตามสั่งข้างนอก แล้วผมก็แอบถามป้าแม่ค้าว่า แถวนี้เคยมีคนโดนข่มขืนอะไรไหม ป้าเค้าก็บอกว่ามีแต่มันก็นานมาแล้ว มีผูหญิงโดนข่มขืนตอนไปกรีดยางแล้วโดนฆ่าเอาศพใส่กระสอบปุ๋ย ตอนผ่ากระสอบออกมาก็เห็นภาพเขาเหมือนคนนั่งกอดเข่าอยู่น่าสงสารมากเขาเป็นเด็กขยันหน้าตาดี พอป้าได้พูดมาแบบนั้นผมก็คิดว่าตัววเองโดนแล้วจริงๆ แล้วผมก็ไม่ไปขับบักกี้และเดินไปตอนกลางคืนที่รีสอร์ทอีกเลย และเรื่องก็มีเพียงเท่านี้ครับขอขอบคุณผู้ที่มาอ่านทุกท่าน

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...