วันจันทร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2561
คืนอาถรรพ์ !!
เรื่องนี้เกิดขึ้นมาทับทิมนามสมมุติเรียนอยู่ปี 1 ที่มหาลัยแห่งหนึ่งของภาคเหนือ ซึ่งมหาวิทยาลัยแห่งนี้ไม่สามารถเอารถเข้าไปได้ มหาวิทยาลัยของทับทิมจะบังคับให้นักศึกษาปี 1 ทุกคนอยู่หอใน ทับทิมได้อยู่หอ 11 ทับหนึ่งซึ่งมีรูมเมจอยู่ด้วยกัน 1 คนรูมเมจนั้นชื่อนายเป็นคนภาคกลาง ซึ่งเป็นคนมีเซ้นต์อยู่แล้ว พวกเราอยู่ในหอในเกือบๆปีก็เจอดีกันเกือบทุกๆวันแต่เรื่องที่ผมจะเล่าตอไปนี้นั้นเป็นเรื่องที่นายเจอ แล้วเอามาเล่าให้กับทับทิมฟัง เรื่องมีอยู่ว่า ที่มหาวิทยาลัยของทับทิม จะมีอยู่คืนหนึ่งที่จะต้องเอาของสีแดงทุกชิ้นเก็บไว้ให้มิดชิดเพราะเชื่อกันว่า คืนนั้นจะเป็นคืนที่กองทัพพระนเรศวร ออกมาเดินผ่านบริเวณพอใน รุ่นพี่ก็เล่าสู่กันฟังว่าเคยเจอบ้างก็ว่าเห็นเป็นกองทัพบ้างก็ว่า บางก็ว่าได้ยินแต่เสียงคนเดินหลายๆคน แต่พอออกมาดูก็ไม่เจออะไร จริงๆแล้วทับทิมไม่ค่อยจะเชื่อเรื่องนี้สะเท่าไร เพราะคิดว่าจะเป็นเรื่องเล่าให้เด็กปีหนึ่งกลัว แต่นานกับบอกว่าไม่เชื่ออย่าหลบหลู่ ทับทิมจึงต้องเก็บเสื้อผ้าเพราะมันเป็นสีแดง และเก็บกล่องห่อข้าวด้วยเพราะเก็นสีแดง พอตะวันตกดินก็เริ่มรู้สึกได้ถึงความน่ากลัวที่เกิดขึ้น ซึ่งโดยปกติแล้วห่อในจะคึกคักมากโดยเฉพราะร้านขายของ ที่มักจะมีคู่รักมานั่งคุยกัน หรือคนที่ออกมาซื้อข้าวของเครื่องใช้ แต่วันนั้นช่วงเวลาใกล้ๆสองทุ่มทุกอย่างดูเงียบสงัดทุกคนเข้าหอกันเร็วมาก แต่ละห้องก็พากันปิดประตูหลังห้อง พอถึง 3 ทุ่มทับทิมก็เปิดประตูหลังห้องออกมาดู แล้วพูกับนายว่าไม่มีใครอยู่หน้าหอเลย นายก็บอกว่าใครจะกล้าออกไปวันนี้ อย่าว่าแต่ปิดห้องเลย แม้แต่เสื้อผ้าก็ไม่เหลือแม้แต่ตัวเดียว แล้วทับทัมก็ปิดประตูหลังห้อง ทับทิพนอนเล่นมือถืออยู่สักพักก็เริ่มง่วงแล้วปวดตาจากแสงหน้าจอมือถือด้วยเลยบอกกับนายว่าจะนอนแล้ว ซึ่งตอนนั้นน่าจะเป็นเวลา 5 ทุ่ม พอทับทิมวางมือถือก็หลับไปเลย ตอนเช้าทับทิมมีเรียนตอน 9 โมง แต่นายเรียน 8 โมงจึงเข้าไปอาบน้ำก่อน พอนายพอนายอาบน้ำเสร็จ ระหว่างนั้นนายก็บอกกับทับทิมว่าต่อไปนี้ ต่อไปนี้เปิดไฟนอน แล้วก็ เอาผ้าม่านหลังห้องลงด้วทับทิมเลยแปลกใจแล้วบอกว่า ถ้าไม่ปิดไฟทับทิมจะนอนไม่หลับ กลังจากที่ทับทิมถามแบบนั้นออกไปนายก็เล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนตอนเกือบๆตีสอง ขณะที่นายกำลังเล่นโทรศัพท์อยู่ปกติแต่สายตาก็เลือบไปเห็นอะไรขาวๆ ตรงหน้าต่างหลังห้อง ก็เลยวางแล้วหันไปดู แล้วนายก็เห็นเป็นหน้าคนขาวๆที่บริเวณหน้าต่างบานนั้น หัวนั้นมันเกยอยู่กับขอบล่างของหน้าต่าง เมื่อทับทิมได้ยินดังนั้นก็เลยบอกไปว่า คิดมากไปหรือป่าวเพราะห้องเราอยู่ตรงชั้น 1อาจจะมีคนปีนมาแกล้งก็ได้ นายก็ตอบกลับไปว่า จะเป็นไปได้ยังไง ตรงหน้าต่างเป็นอ่างล้านจานจะมีใครปีนขึ้นไปได้ เพราตรงนั้นมีถ้วยจานช้อนซ่อม ถ้ามีคนปีนขึ้นมาก็ต้องมีเสียงบ้างละ แล้วนายก็เล่าต่อว่า หลังจากที่เห็นหน้าคนนายก็เลยขยี้ตาหลายครั้งแล้วก็มองดูอีกที แต่ก็ยังเห็นใบหน้านั้นได้ มันทำหน้านิ่งๆ จ่องมองมาที่นายพยายามตะโกนเรียงทับทิมเรียกตั้งหลายครั้งแต่ก็ไม่ตื่นนายไม่รู้จะทำยังไง จึงหันกลับไปมองอีกครั้งแต่ก็ยังเจออยู่ แล้วใบหน้านั้นก็ค่อยๆลอยห่างออกไปจากหน้าต่าง พอนายแน่ใจแล้วว่าใบหน้านั้นหายไปแล้ว นายก็รีบไปปิดม่านลง แล้วกระโดดขึ้นเตียงนอนทันที หลังจากนั้นที่ทับทิมได้ฟัง ทิบทิมก็บอกให้นายไปทำบุญ เพื่อไม่ให้นายจิตตกทับทิมยอมให้นายเปิดไฟห้องน้ำก่อนนอน และม่านหลังห้องนั้นก็ไม่เคยถูกเอาขึ้นอีกเลย และเรื่องก็มีเพียงเท่านี้ครับขอขอบคุณผู้ที่มาอ่านทุกท่าน
ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
งานศพหลาน!!
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...
-
เกิดขึ้นมาประมาณ 5 ปีก่อนที่บางแสนคุณตุ๊กตาได้เล่าว่าที่สี่แยกไฟแดงแหลมแท่นติดกับโรงเรียนแห่งหนึ่งจะมีซุ้มกาแฟโบราณอยู่แม่ค้าจะ...
-
เป็นตึกแล็บเคมีครับและน่าจะเป็นตึกที่มีเรื่องเล่าเยอะที่สุดของมหาวิทยาลัยนี้แล้ว ตั้งแต่หากยืนหน้าตึกแล้วมองลอดใต้หว่างขาขึ...
-
เราก็เคยเจอเหมือนกัน เพื่อนๆ ร่วมรุ่นก็เจอพร้อมกัน มันเป็นเหตุการณ์ที่นักศึกษาชายกลุ่มหนึ่งกินเหล้าในหอ อาจารย์มาพบหลักฐา...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น