บ้านของแป้งติดอยู่ใกล้กับวัดแห่งหนึ่งเป็นวัดขนาดกลางที่มีผู้คนมาทำบุญเยอะอยู่พอสมควร ภายในวัดจะมาศาลาที่เอาไว้ทำพิธีอยู่สองหลัง แป้งสังเกตุมาหลายครั้งแล้วว่าเมื่อไหร่ที่จัดพิธีศพที่ศาลา 1 ถัดจากวันนั้นวันหรือสองวันอีกศาลาก็จะจัดพิธีศพด้วยเหมือนกัน เมื่อจัดงานเสร็จแล้วก็จะว่างพร้อมกันทั้งสองศาลาด้วยความสงสัยจึงเอาเรื่องนี้ไปถามยาย ยายอาศัยอยู่ที่นี้มานานแล้วจึงพอจะรู้ประวัติพอสมควร ยายบอกว่าในตอนที่วัดนี้สร้างใหม่ๆมีอุบัติเหตุทำให้คนตายพร้อมกันถึงสองคนหลังจากนั้นก็เป็นอาถรรพ์จะต้องมีอีกศพมาด้วยตลอด เมื่อแป้งได้ฟังก็ขนลุกไม่คิดว่าวัดที่ตั้งอยู่ใกล้บ้านของเธอจะมีอาถรรพ์แปลกๆอย่างนี้ แต่เรื่องศาลาวัดก็ยังไม่น่ากลัวสำหรับแป้งเท่าไหรเพราะวัดตั้งอยู่นอกรั้วบ้าน แต่ที่แป้งกลัวกลับเป็นบ้านไม้หลังเก่าที่ถูกปล่อยทิ้งร้างอยู่ในเขตบ้านของเธอ บ้านไม้หลังนี้ยกพื้นสูงดูแล้วน่าจะถูกสร้างมาแล้วหลายสิบปี ยายบอกว่าในตอนที่มาซื้อที่ก่อนที่จะปลูกบ้านก็มีบ้านหลังนี้ปลูกมาก่อนแล้วตอนนั้นบ้านก็ยังสภาพดีอยู่ยังไม่ได้รื้อออก เมื่อเห็นว่ามีที่ดินเหลืออีกมากแล้วมีบ้านหลังใหญ่ เพราะอยู่กันหลายคนยายก็เลยสร้างบ้านอีกหลัง ตรงที่ดินใกล้ๆกันพอสร้างเสร็จก็ย้ายมาอยู่จนถึงปัจจุบัน ป้าเสียดายบ้านไม้หลังเก่าที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์แกจึงเข้าไปทำความสะอาดแล้วขนของขึ้นไปอยู่ แต่อยบู่ได้ไม่กี่วันก็ต้องรีบย้ายออกจากบ้านหลังนั้น วันนั้นป้าได้ล่าให้ฟังว่าคืนหนึ่งป้าได้ฝัน ว่ามีผู้หญิงแต่งตัวโบราณเดินเข้ามาหาป้าที่เตียงแล้วตะโกนใส่ป้าว่า "อย่ามานอนทับที่กู" วันรุ่งขึ้นบ้าก็รีบขนของออก เพราะไม่กล้านอนคนเดียว ไม่กี่วันหลังจากนั้นยายก็ได้ให้คนทรงขึ้นไปดูบ้านหลังนั้น พอตรวจที่ทางเสร็จก็บอกว่ามีวิญญาณอยู่ที่บ้านนั้น 2 ตนเป็นเจ้าที่ดูแลบ้านให้หาของเส้นไหว้ให้เจ้าที่เอาไว้เป็นประจำแล้วคนในบ้านก็จะอยู่อย่างสงบไม่อดอยาก ซึ่งบ้านของแป้งก็จะจัดพิธีไหว้เจ้าที่ทุกปีแค่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครเข้าไปอยู่ที่บ้านไม้หลังเก่าจนปล่อยทิ้งร้างมาถึงทุกวันนี้ ครอบครัวอของแป้งไม่มีใครเจอวิญญาณที่บ้านไม้เก่าหลังนั้นอีก จนถึงตอนที่แป้งอายุประมาณ 7-8 ขวบซึ่งก็ผ่านมาหลายปีแล้ว ตอนที่แป้งตอนเด็กก็จะได้ไปเที่ยวตลาดพร้อมกับพ่อ แม่และพี่สาวอยู่บ่อยๆ เย็นวันหนึ่งประมาณหนึ่งทุ่มหลังจากไปเที่ยวตลาดเสร็จแล้วกลับมาบ้านแป้งก็ได้ยินพี่สาวบอกกับแม่ว่า "แม่ตอนที่หนูกำลังจะไปปิดประตูหลังบ้าน ป่านเห็นยายแก่ๆเดินอยู่บ้านไม้หลังเก่า" แม่รีบห้ามป่านไม่ให้พูดเริ่มวิญญาณหลังบ้านอีกเพราะไม่อยากให้แป้งกลัวส่วนป่านก็มักจะเห็นจนชินก็เชื่อแม่จึงไม่เล่าเรื่องนี้ให้แป้งฟัง นอกจากที่บ้านแล้วป่านยังพบเจอวิญญาณตามสถานที่ต่างๆอีกหลายแห่ง เมื่อประมาณปีที่แล้วป่านได้ไปเที่ยวทะเลกับแฟนที่ชลบุรี ป่านกับแฟนได้เช่าห้องพักที่เห็นวิวทะเล เมื่อจัดของในห้องเสร็จก็ออกไปเล่นทะเลกันอย่างสนุกสนานตกดึกก็ออกไปกินอาหารทะเล พอกลับมาถึงห้องพักป่านกับแฟนก็รู้สึกง่วงมาก จึงเตรียมตัวเข้านอนเวลาผ่านไปถึงตีหนึ่ง ป่านก็รู้สึกเหมือนถูกจึ้เอวที่ด้านซ้าย เธอจึงลืมตาแล้วหันไปมองแฟน ซึ่งนอนอยู่ทางขวาก็เห็นแฟนทำกลังนอนหลับสนิทป่านจึงหันไปมองที่เอวด้านซ้าย ก็เห็นเด็กผู้หญิวัยรุ่นกำลังใช้นิ้วชี้จี้ที่เอวของเธอใบหน้าของเธอนั้นเละเหมือนล้มกระแทกของแข็งออกรุนแรงเลือดอาบใบหน้าหยดลงไปที่พื้น ป่านคิดว่าคนขวัญอ่อนคงไม่อาจทนดูภาพแบบนั้นได้แต่ป่านชินแล้วกับเหตุการณ์แบบนี้ จึงพูดกับวิญญาณเด็กผู้หญิงคนนั้นว่า "แล้วจะทำบุญไปให้" เสร็จแล้วป่านก็กลับไปนอนต่อปล่อยให้ผีผู้หญิงคนนั้นจี้เองทั้งคืน หลังจากที่ป่านกลับจากทะเลก็เอาเรื่องงนี่ไปเล่าให้แป้งฟังมันทำให้แป้งขนลุกชันไปทั้งตัว คืนนั้นทำเอาแป้งนอนไม่หลับเพราะเอาแต่จินตนาการภาพผู้หญิงหน้าเละนั่งจ้องเธออยู่ข้างเตียง เธอยังนึกในใจว่าถ้าได้เจอเรื่องแบบนี้เธอคงนอนต่อไปอย่างป่านไม่ได้ และเรื่องก็มีเพียงเท่านี้ครับขอขอบคุณผู้ที่มาอ่านทุกท่าน
ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น