วันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ใครอยู่ในบ้าน !!


      ครั้งนี้จะมาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นจากตัวผมเอง ซึ่งเราก็ไม่ทราบว่าที่เราเจอนั้นเป็นผีหรืออะไรกันแน่เพราะมันยังคงติดค้างอยู่ในใจเราตลอดมา เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีก่อนมันเกิดที่บ้านของเราเองตอนนั้นเราเรียนอยู่มอต้น ก่อนอื่นของบอกรายละเอียดของบ้านเราก่อนว่า บ้านเรานั้นเป็นบ้านมือสองที่เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจในปี พ.ศ. 2544 บ้านหลังนี้บ้านเราของเราไปมาในราคาที่ถูกมากจนไม่น่าเชื่อแต่ก็ไม่รู้หรอกว่าทำไมมันถึงถูกขนาดนั้น แต่ที่รู้ที่นี้เคยเป็นบ่อนคาสิโนมาก่อน และเป็นบ่อนเถื่อนที่ได้แอบเปิดให้คนมาเล่น แต่ในปัจจุบันเราก็ปรับปรุงให้มีสภาพที่ดีขึ้นน่าอยู่ไม่มีร่องรอยของบ่อนคาสิโนอยู่เลย บ้านหลังนี้มี 2 ชั้นซึ่งทางเดินจากชั้นหนึ่งไปชั้นสองก็จะมีที่พักบรรไดอยู่แล้วบรรไดก็จะเลี้ยวย้านกลับไปเพื่อนที่จะขึ้นไปชั้นบน จุดที่เกิดเหตุก็คือจุดที่พักบรรได้นั้นแหละหากเราเดินจากชั้นล่างเดินมาถึงที่พักบรรได้ที่ตรงนี้จะมีประตูห้องอยู่ และถ้าเดินลงบรรไดจากชึ้นบนมาก็จะเจอห้องนี้อยู่ตรงหน้าเช่นกัน เราเรียกห้องนี้ว่าห้องดนตรี หลังจากนั้นเราก็ขนของเข้ามาอยู่มีทีวี เครื่องเล่นเกมเอาไว้เล่นยามว่างแต่เราก็ไม่ได้นอนที่ห้องนั้นหรอก จนวันหนึ่งซึ่งเป็นวันเกิดเหตุเราก็อยู่ห้องนั้นแหละตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ 3 ทุ่มขณะที่กำลังเล่นเกมอยู่ในห้องเป็นเกม PS2 เอามาต่อกับทีวีซึ่งที่วีจะหันเข้ากับกำแพงทางด้านที่มีประตูเข้าห้อง คุณแม่ก็กำลังอ่านหนังสืออยู่ชั้นล่างส่วนคุณพ่อก็ทำงานดึกจึงยังไม่กลับบ้านในขณะที่กำลังเล่นเกมอยู่นั้น จู่ๆประตูก็สั่นแล้วก็มีเสียงเคาะประตูอย่างแรงถึง 3 ครั้งดังเป็นจังหวะแต่เราก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่ไม่นานนักก็ยังเคาะขึ้นอีกเหมือนกับจงใจให้เราลุกขึ้นไปเปิดประตูให้ได้จากที่เรากำลังสนุกจากการเล่นเกมก็เริ่มรู้สึกประสาทหลอนมันเริ่มสั่นแรงมาขึ้นทุกที ตอนนั้นเริ่มหยุดเล่นเกมนั่งนิ่งตอนนั้นเราก็เริ่มวางจอยลง แล้วเราก็เริ่มหันไปมองที่ประตูทันใดนั้นเองเสียงนั้นก็ดังขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งและก็มีเสียงหมุนลูกบิดแบบเอาเป็นเอาตาย เหมือนกับว่าจะเข้ามาให้ได้ ทั้งๆที่เราก็ไม่ได้ล็อคประตู ถ้าเป็นแม่เราก็จะเรียกแล้วเปิดเข้ามาเลย แต่นี้มันไม่ใช่แล้วตอนนั้นเรานั่งเกร่งหัวใจเต้นแรง จินตนาการว่าอะไรยืนอยู่หน้าประตูถ้ายังอยู่แบบนี้คงต้องฉี่แตกแน่ๆ จึงตัดสินใจตะโกนถามแม่ออกไปอย่างเสียดัง ว่ามีอะไรหรือป่าวเพราะแม่บอกเรามาว่าถ้าได้ยินเสียงอะไรอย่าไปทักแต่คำตอบจากแม่ก็ทำให้เราขนลุกเพราะเสียงแม่นั้นดังมาแต่ไกล ถามเราว่ามีอะไรหรอลูกเราเริ่มใจคอไม่ดีแล้วถ้าอยู่ห้องนี้ต่อไป รีบปิดเกมแล้วยืนอยู่หน้าประตูอยู่พักหนึ่ง เมื่อเราเห็นว่าประตูหน้าห้องเงียบไปได้สักพัก เราจึงตัดสินใจเปิดออกไปอย่างรวดเร็วก็ปรากฏว่าไม่มีใครอยู่หน้าห้องเลย เราตกใจกลัวมากรรีบวิ่งไปหาแม่ แล้วก็อยู่กับแม่ตรงนั้นเพื่อความอุ่นใจ เช้าวันถัดมาเราก็เล่าให้คุณแม่ฟังสีหน้าของท่านดูเรียบเฉยไม่มีอาการแปลกใจแต่อย่างใดเหมือนกันว่ามันเป็นสิ่งปกติเหมือนกับรู้อะไรบางอย่างแต่ไม่บอกเรา ปัจจุบันนี้เราก็ยังอยู่บ้านหลังนั้นและไม่ได้ยินเสียงเคาะประตูอีกแล้วพอหลังจากนั้นเราก็ไม่กลับไปใช้อีกเลย และเรื่องก็มีเพียงเท่านี้ครับขอขอบคุณผู้ที่มาอ่านทุกท่าน 

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...