วันพุธที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2561

เจอยมทูต !!





    ผมมีเรื่องเล่าเมื่อผมอายุยังเด็กเมื่อประมาณ 2-3 ขวบตอนนั้นยังจำความไม่ได้ แต่คุณย้ายเล่าให้ผมฟังอีกืที่เมื่อโตแล้ว ผมเป็นเด็กอีสานบ้านติดกับถนนใหญ่ที่หน้าบ้านก็มีต้นมะยมอยู่หนึ่งต้น ข้างๆบ้านผมก็เป็นร้านขายของเก่า ถัดไปก็จะเป็นบ้านคนอยู่เรียงๆกันไป เรื่องมีออยู่ว่าเวลาประมาณ 1 ทุ่มผมพึ่งกลับจากการไปเที่ยวกับเพื่อนมา พอไปถึงบ้านก็มาอาบน้ำแล้วก็ไปกินข้าวนอกบ้านกับครอบกลัว หลังจากกินเสร็จ หลังจากกินเสร็จก็กลับมาบ้านก็เป็นเวลาประมาณ 3 ทุ่มกว่าๆแล้ว ในขณะที่ครอบครัวผมกำลังลงจากรถ ผมก็เห็นบางสิ่งจึงชี้ไปที่ต้นมะยมหน้าบ้านแล้วจึงถามย้ายว่า ยายทำไมมีคนตัวใหญ่ๆยืนอยู่ตรงนั้นหละ ซึ่งตอนนั้นผมพูดได้บ้างไม่ได้บ้าง เพรายังเด็กและกำลังหัดพูด แต่คุณยายก็เข้าใจในสิ่งที่ผมพูด ยายมองไปดูก็ไม่เห็นมีใคร คุณยายพาผมลงจากรถแล้วบอกกับผมว่า ไม่เห็นมีอะไรเลยสงสัยจะเป็นเงาต้นไม้แต่เมื่อผมสงจากรถกับเห็นสิ่งนั้นชัดเจนมากยิ่งขึ้น นั้นไงนั้นไงครับตรงนั้นไง ตัวสีแดงๆถือสมุดอะไรก็ไม่รู้ เค้ามองมาทางเราด้วยครับ เมื่อยานได้ยินอย่างนั้นก็รีบพาผมเข้าบ้าน สักพักก็มีคนข้างบ้านมาเรียกที่หน้าบ้าน ตาของผมจึงออกไปดูหน้าบ้าน แล้วถามว่ามีอะไร คนคนนั้นได้ตอบกลับมาว่ายายที่อยู่บ้านข้างๆเราที่ถัดไปสองหลังได้เสียชีวิตแล้ว ตา ยาย และพ่อแม่ของผม ทุกคนต่างตกใจและตามเค้าคนนั้นไปยังบ้านหลังนั้นโดยทันทีโดยที่เอาผมไปด้วยเดินมาได้ไม่นานหนักก็ถึงบ้านหลังนั้นเพราะมันก็ไม่ได้ไกลกันมาก ซึ่งตอนนั้นผมสงสัยว่าเค้ามาทำอะไรกันเพราะยังเด็ก เมื่อผมถามยายว่าเค้ามาทำอะไรกันยายก็บอกว่า เพื่อนของยายตายแล้วสีหน้าของยายดูเศร้าหมอง แต่ด้วยความเป็นเด็กจึงไม่ได้คิดอะไร เพราะไม่รู้ว่าที่ยายพูดเป็นอะไรตายคืออะไร สักพักพ่อกับแม่ก็พาผมออกไปข้างนอกเพราะในบ้านคนเยอะ มีเพียงตากับยายเท่านั้นที่อยู่ข้างใน แล้วสักพักตากับยายก็ออกมาโดยที่พวกเราพ่อแม่ลูกนั่งรอหน้าบ้านแห่งนั้น ระหว่างทางที่เราเดินกลับบ้านผมก็ได้ชี้บอกกับยายว่ายายครับคนนั้นอีกแล้วยายจึงถามว่าคนไหน ผมจึงบอกว่าตัวสีแดงๆ ยายแปลกใจแล้วหันไปมอง แต่ก็ไม่เห็นมีอะไร จึงถามผมอีกว่า เค้าอยู่ตรงไหนลูก ผมจึงตอบไปว่าที่หน้าบ้านหลังนั้นไงครับ เค้ากำลังเดินเข้าไปในบ้านหลังนั้นแล้ว ยายทำหน้าตื่นตกใจแล้วบอกว่า ยมทูต พวกเราทั้งหมดจึงรีบเดินกลับบ้าน ย้ายก็บอกกันผมว่าวันนี้ก่อนนอนอย่างลืมไหว้พระก่อนนอนนะลูก แล้วพวกเราก็รีบเข้านอนกันทันที เช้าวันต่อมาบ้านที่มีคนตาย ได้มีการจัดงานศพยายผมก็ได้ไปงานนั้นด้วยทุกวันจนถึงวันที่เผา ส่วนตัวผมไม่ได้ไปเพราะส่วนตัวผมถือว่า ห้ามให้เด็กไปงานศพเพราะมันจะไม่ดีต่อตัวเด็กแม้ว่าตอนนั้นผมจะไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมเห็นนั้นมันคืออะไรแต่เมื่อยายมาเล่าให้ผมฟังในตอนโต มันก็ทำให้ผมรู้สึกขนลุกอยู่เหมือนกัน และเรื่องก็มีเพียงเท่านี้ครับขอขอบคุณผู้ที่มาอ่านทุกท่าน

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...