วันพุธที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2561

เรื่องผีๆกับบ้านไม้ทั้งหลัง !!


          บ้านผมเป็นบ้านไม้หลังใหญ่ครับ คนสมัยก่อนชอบสร้างบ้านเป็นไม้ทั้งหลังหรือเปล่าผมไม่แน่ใจแหะๆแต่เพราะความหลังใหญ่ของมันนี่แหละทำให้ผมหลอนตั้งแต่เด็กๆ บ้านหลังนี้สร้างพร้อมกับตอนผมเกิดเลยนะครับ ผมโตมากับบ้านหลังนี้เลยก็ว่าได้ ตั้งแต่เด็กผมก็ไม่เคยเจออะไรนะครับ แต่ยอมรับว่ากลัวผีมากๆ ไม่เคยเจอแต่กลัวมากๆไม่รู้เหมือนกันเพราะอะไร บ้านผมมันจะน่ากลัวตอนกลางคืนครับ ไม่รู้ว่าใครออกแบบบ้านสวิตช์ไฟข้างบนบ้านกว่าจะไปเปิดไฟได้ต้องแหวกความมืดเข้าไปเปิด ด้วยความที่บ้านหลังใหญ่ กว่าผมจะเดินไปถึงผมนี่หลอนแล้วหลอนอีกเลย ผมเริ่มเจอผีครั้งแรกตอนมัธยมปลายครับ (เล่าๆนี่ก็กลัวเพื่อนจะมาเจอ เพราะเล่าให้เพื่อนฟังบ่อยๆ) เหตุการณ์แรกก็คงจะเป็นผีจากที่ไหนไม่รู้ (เข้ามาในบ้านผมได้ไง) คือมีช่วงหนึ่งผมจะกลับบ้านพร้อมกับเพื่อนครับคือบ้านอยู่ไม่ไกลกันมากก็เลยว่ากลับด้วยกันดีกว่า ผมช่วยค่าน้ำมันรถด้วย เป็นรถของเพื่อน พอเพื่อนส่งผมเสร็จก็กลับบ้านมันไป ผมก็เปิดคอมเล่นเฟสตามปกติ อยู่ๆเพื่อนก็ทักมาว่าเข้าบ้านไม่ได้ไม่มีกุญแจคนที่บ้านไปรับยายจากรพมันก็เลยนั่งหงอยอยู่หน้าบ้าน ผมก็ไม่ได้อะไร ก็อ่อๆก็บอกมันว่าก็รอไปเดี๋ยวก็คงจะกลับกันแล้ว ซักพักมันทักมาอีกบอกว่าเข้าบ้านได้แล้วยายมาละ มันยังเล่าต่ออีกว่ายายพูดอะไรไม่รู้แปลกๆบอกว่าเห็นผมอยู่กับมัน ยายก็พูดกับมันประมาณว่ายังไม่ไปส่งเพื่อนอีกหรอ ทำไมให้เพื่อนมารอด้วย มันก็งงสิครับ เพื่อนไหน ยายก็พูดอีกนั่นไงใส่เสื้อสีน้ำเงินนั่นน่ะ ชี้ด้วยนะ มันนี่รีบพายายเข้าบ้านเลยครับ ผมฟังมันเล่าก็ไม่ได้ใส่ใจมาก คนแก่อาจจะตาฝาดไปเองก็ได้ พอตกดึกผมกับแม่ปิดบ้านกำลังจะขึ้นข้างบนบ้าน ระหว่างที่กำลังปิดผมก็เหลือบไปเห็นคนนั่งอยู่ใต้เก้าอี้ นั่งงอตัวอะครับ รูปร่างก็พอๆกับผม เสื้อสีน้ำเงิน บร๊ะะะ ผมนี่ใจเต้นแรงเลย เห็นแว๊บเดียวแล้วก็หายไป พยายามมองซ้ำๆก็ไม่มีละ ซักพักกลิ่นธุปลอยมาจากไหนไม่รู้ แต่รู้ว่าเป็นกลิ่นธูป อื้อหือกลัวหนักกว่าเดิมเลยครับ รีบขึ้นบ้านเปิดวิทยุเลือกคลื่นที่มีพระสวด เพิ่งรู้ว่ามันเป็นวันพระ เหตุการณ์คืนนั้นก็ปกติดี ผมก็อาบน้ำนอนตามปกติ ส่วนอีกเหตุการณ์หนึ่งเป็นเหตุการณ์ที่คนอื่นเล่าให้ผมฟังว่าเจอผีที่บ้านผมครั้งแรก มีคนบอกว่าเห็นผู้หญิงผมยาวใส่ชุดสีขาวยืนอยู่ตรงบันไดบ้านของผม(คือบ้านผมถ้ามองจากข้างนอกจะเห็นบันไดบ้านด้วยครับ) เขาตื่นเช้ามาทำงาน(ประมาณตีห้า) แล้วผ่านบ้านผม เขาเห็นก็เลยเอามาบอกครับครั้งที่สอง ตอนเด็กๆพ่อกับแม่ผมไปต่างจังหวัดบ่อยครับแต่เอาผมไปด้วยไม่ได้ ก็เลยให้ญาติกับพี่ๆ(ลูกของญาตินั่นแหละครับ)มานอนเป็นเพื่อนผม ผมก็เฮฮาตามประสาเด็กครับ ดึกแล้วก็นอนก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ญาติคนนั้นเขาแก่แล้วอะครับ คนแก่นอนต่างบ้านอาจจะไม่ชิน เขานอนไม่หลับก็เลยไปนั่งรับลมที่บันได(นั่นแหละครับ) เขานั่งได้ไม่นานก็มีผู้หญิงสองคนมานั่งด้วย ผู้หญิงผมยาวทั้งคู่แต่ใส่ชุดสีดำกับสีขาวครับ เขาก็ตกใจสิครับ รีบวิ่งเข้าห้องแล้วมานอนสวดมนต์ซ้ำไปมา (เรื่องนี้พี่ๆที่มานอนกับผมเล่าให้ฟังครับ) อย่างที่บอกไปตอนต้นครับว่ากว่าจะเดินไปเปิดสวิตช์ไฟได้ต้องฝ่าความมืดเข้าไป ฮืออออ ก็เหมือนเดิมอย่างวันที่ผ่านๆมาครับ ผมเดินตรงไปทางสวิตช์ไฟอย่างเร่งรีบครับ รีบเดินรีบเปิดจะได้สว่างเสียที ผมต้องคอยเดินหลบเสาที่บ้านด้วยครับ(ไม่รู้จะเยอะไปไหน) ระหว่างเดินนั่นแหละครับเห็นเป็นเงาๆของผู้หญิงใส่ชุดสีขาวเดินนำหน้าครับคืออยู่ข้างหน้าเลยครับ เห็นชุดเขาเป็นแบบเหมือนเสื้อคลุมมั้งครับ คือยาวเกือบลากพื้นเลย ผมได้แสงสว่างจากเขาก็เลยเดินไปเปิดไฟได้ไม่มีปัญหาอะไร แหะๆไม่น่ากลัวเลยเนาะ ผมก็เข้านอนตามปกติครับ ปิดไฟพุ่งลงเตียงอย่างรวดเร็ว ซักพักเสียงเคาะมาจากทางหน้าต่างครับ อย่างที่บอกบ้านไม้ครับบ้านไม้เสียงเคาะได้ยินชัดเจนเลย ทางหน้าต่างด้วยนะ คือข้างนอกหน้าต่างมันไม่มีที่จะให้ยืนได้เลยครับ เสียงเคาะไม่ใช่เสียงเคาะแบบเคาะประตูว่ามีใครอยู่ข้างในไหมนะครับ เป็นการเคาะที่ฮาร์ดคอร์มากครับเหมือนทุบมากกว่ามันดังและรัวมากๆ ผมนี่เหงื่อแตกเลยครับ ตอนแรกแกล้งเป็นไม่สนใจนอนต่อไป แต่เสียงมันไม่มีทีท่าว่าจะเงียบ ผมก็เลยมองไปทางหน้าต่าง ตรงหน้าต่างก็จะมีโต๊ะทำการบ้านของผมอยู่มีโต๊ะก็มีเก้าอี้เนาะ ผมเห็นหน้าผู้หญิงคนหนึ่งนั่งตรงเก้าอี้มองมาทางผมคือดูหน้านี่รู้เลยครับโกรธสุดๆ ผมก็จะเหลือหรอครับผ้าห่มคลุมโปงทันทีครับ แต่เสียงมันไม่หยุดให้ (ร้องไห้หนักมาก) ผมก็เลยรวบรวมความกล้าที่มีทั้งหมดลุกไปเปิดไฟครับ พอเปิดเสร็จเสียงเงียบครับ แต่ผมจะอยู่หรอครับโดนขนาดนี้ รีบไปห้องที่พ่อกับแม่นอนอยู่แล้วก็บอกไปครับว่าได้ยินเสียงอะไรไม่รู้เหมือนเคาะๆตรงหน้าต่าง พ่อก็บอกว่าตุ๊กแกกินแมลงมั้งไม่มีไรหรอก พ่อบอกอีกว่าถ้าได้ยินอีกก็เคาะกลับไปเลย (เอิ่มช่วยได้มากเลยพ่อ) ผมก็กลับไปห้องนอนอีกครั้ง คราวนี้ไปเคาะกลับเลยครับ รอดูซักพักมันเงียบก็เลยปิดไฟนอนต่อ หลับปกติดีครับ

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...