วันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2561

เรื่องผีที่เคยเจอ สมัยเรียนมหาลัยแห่งหนึ่งในภาคเหนือ !!


                  ก่อนอื่นเลย ส่วนปัจจุบันนี้ไม่ค่อยได้เห็นอีกเลย ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี จะมีใครบ้างที่อยากเห็นผี เลยจะเอาประสบการณ์มาเล่าให้ฟัง จะเชื่อหรือไม่ขึ้นอยู่กับคนอ่านแล้วละครับ จะเริ่มเล่าย้อนไปสมัย ปี 1 เลยนะครับ มหาลัยแห่งนี้อยู่ในป่าเขาในทางภาคเหนือ ซึ่งผมได้มีโอกาสไปเรียนที่แห่งนี้จนจบปี4 เรื่องมันเริ่มขึ้นหลังจากเราย้ายเข้ามาอยู่หอพักของมหาลัยได้ไม่นาน ซึ่งหอพักเราจะอยู่อาคารที่ 20 และ 1 ห้องจะอยู่ด้วยกัน 4 คน สมัยผมมีถึงแค่ 24 หอ ห้องเราจะมีเพื่อนคนหนึ่งชื่อ ต  อีกคน ชื่อ น  และคนนี้ไม่ค่อยมานอนห้องเท่าไหร่ชอบไปนอนห้องเพื่อนของเขาเอง ชื่อ ป  ส่วนเราชื่อ อ เรื่องมันมีอยู่ว่าหลังจากเรามาอยู่กันวันแรก ก็ได้มีการจุดธูปเทียนไหว้เจ้าที่เจ้าทางเพื่อความเป็นศิริมงคล ตามประสาเด็ก freshman ซึ่งหออื่นๆ เขาก็ทำกัน ปรากฎว่า ก็ผ่านไปได้ด้วยดีไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ก่อนหน้าที่จะมาที่มหาลัยแห่งนี้เคยได้ยินเรื่องเล่ามาพอสมควรเกี่ยวกับหอพัก ไหนจะมีแรงงานตาย แรงงานถูกฝังไว้ใต้ตึก ญ แล้วก็ได้ทำการปิดข่าว เปลี่ยนเลขตึกใหม่ ขอบอกก่อนว่าตึกที่ 20 ของเราเป็นตึกใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จยังไม่เคยมีรุ่นไหนได้เข้ามาอยู่ รุ่นเราคือรุ่นแรก ส่วนตึกอื่นๆมีรุ่นก่อนๆ เคยอยู่ และด้วยเป็นตึกใหม่ทางมหาลัยอาจจะยังไม่ได้ทำบุญหอพัก รึป่าว อันนี้ไม่แน่ใจ เริ่มเลยนะครับ เป็นเรื่องที่เรากับเพิ่อน ต เจอ เรื่องมีอยู่ว่า ระหว่างที่เรากับ ต เรียนเสร็จในช่วงเช้าแล้วกลับมาที่ห้องในช่วงเที่ยงๆ เราก็ได้เข้าห้องน้ำเพื่อที่จะอาบน้ำ เพราะอากาศมันร้อน ส่วน ต ก็เข้าไปห้องส้วม ซึ่งหอพักจะมีแยกห้องน้ำ กับห้องส้วม ไว้ตรงข้ามกัน ในระหว่างที่อาบน้ำอยู่ได้สักพักได้ยินเสียงคนคุยกัน และเริ่มเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ แบบตะคอกใส่กัน ดังมาจากในห้องเรา ไอ่เราก็พยายามฟังว่าใครมาคุยกันเสียงดังในห้องกูวะ แต่ฟังไม่รู้เรื่องเพราะไม่ใช่ภาษาไทย เราก็เปิดประตูห้องน้ำแล้วชะโงกหน้าเข้าไปในห้อง ปรากฏว่าไม่มีอะไร เสียงนั้นก็เงียบหายไป คิดว่าหูแว่ว ก็เลยอาบน้ำต่อจนเสร็จกำลังใส่เสื้อผ้า แล้วอยู่ๆก็ได้ยินเสียงตะคอกกันแบบเดิมอีก เราเลยคิดว่าเป็นแรงงานพม่าที่มาสร้างหอพักคุยกันรึป่าว จึงเปิดประตูห้องน้ำ พร้อมๆ กับ ต ที่ทำธุระเสร็จ เราก็มองหน้ากัน แล้วถามว่าได้ยินเสียงคนคุยกันแล้วเหมือนตะคอกมั้ย ต ตอบว่าได้ยินสิ แต่จับใจความไม่ได้เป็นภาษาไทยปะ เราก็บอกว่าไม่อะเราได้ยินภาษาอื่น ไอ่เราสองคนก็มองหน้ากันปริบๆ เราเลยชะโงกหน้าไปที่ระเบียงก็ไม่เห็นคนสักคน เลยบอก ต ว่า หูฟาดกันรึป่าววะ แล้วก็หัวเราะกลบเกลื่อน อีกใจนึงคิดไปแล้วละว่าถ้าหูฝาดจะได้ยินพร้อมกัน 2 คนเลยหรอ เลยนั่งคุยกัน สักพักมาอีกแล้วเสียงคุยกันคราวนี้ชัดเลย ในห้องกูเลย เรากับเลยมองหน้ากัน เรากำลังจะวิ่ง ต บอกรอกูก่อนมันหยิบกระเป๋าสตางค์กุญแจ  แล้วก็วิ่งออกห้อง กันแบบหน้าตาตื่นมากเราก็เลยรู้ว่า เราเจอดีเข้าแล้วละ แล้วก็แยกย้ายกันไปทำธุระ เพราะช่วงนั้นพี่สาขานัดบ่อย ละเรากับ ต ก็นัดเจอกันอีกที 4 ทุ่ม ที่หน้าหอ พอถึง 4 ทุ่ม ยามเป่านกหวีดเป็นสัญญานว่าหมดเวลาแล้วต้องเข้าหอพัก เราก็เจอ ต พอดี เดินมาถึงหน้าหอพัก แล้วเจอ น เลยแปลกใจว่าทำไม น มารออยู่ตรงหน้าหอ ทำไมไม่ไปอยู่บนห้องรอ พอถาม น มันบอกว่า ตอนที่มันเลิกเรียนประมาณบ่ายสาม มันได้เข้ามาที่ห้องเพราะว่าปวดท้อง หลังจากมันเข้าห้องส้วมได้ไม่นาน มันก็ได้ยินเสียงคนคุยกันในห้อง มันเลยคิดว่า เรากะ ต กลับห้องมากัน  พอ น ทำธุระเสร็จออกจากห้องส้วมมา ปรากฎว่าไม่มีใครอยู่ในห้อง มันเลยเอะใจว่าทำไมเมื่อกี้ได้ยินเสียงคนคุยกัน สักพัก ไฟในห้องส้วมก็ระเบิด เหมือนหลอดขาด ดัง ตุ๊บ !!! มันก็เลยไปปิดสวิทไฟ ระหว่างนั้น มันได้ยินเสียง เด็กหัวเราะ อยู่ในห้อง แบบสะใจ  มันตกใจตั้งสติได้ เลยรีบวิ่งออกห้องมา แล้วลืมกุญแจไว้ในห้องไม่ได้หยิบอะไรมา เลยมารอเราที่หน้าหอ พอเราขึ้นไปบนห้องกัน 3 คนก็เลยเล่าในสิ่งที่ เรา กับ ต เจอในวันนี้ ให้ น ฟัง ทุกคนเลยหันมามองกันแบบ เราเจอเข้าแล้วสินะ

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...