วันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2561
ผีพรายทำลายชีวิตผม !!
เรื่องเกิดขึ้นที่จังหวัดนึงในภาคใต้ ตอนนั้นผมอายุ 21 ปี ผมหนีออกจากบ้าน กับความรู้แค่ ม.3 ไปทำงานเองด้วยเหตุผลส่วนตัว เมื่อก่อนบ้านผมอยู่ค่อนข้างห่างไกลความเจริญ ผมเลยหนีเข้ามาทำงานรับจ้างอยู่ในอำเภอเมือง ทำทุกอย่างที่ได้เงินพอประทังชีวิตไปเรื่อยๆ ผมเก็บขวดไปขาย บวกกับทำงานเป็นเด็กปั้มแห่งหนึ่ง ทำอยู่ประมาณเกือบ 3 ปี ก็เก็บเงินได้ก้อนนึง แล้วก็คิดว่าอยากจะมีที่อยู่เป็นของตัวเองบ้าง (ผมอาศัยอยู่ที่พักคนงานของเถ้าแก่ปั้ม เขาให้ผมอยู่ฟรี) ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงด้วยความที่ความรู้น้อย ผมเลยไปปรึกษาเถ้าแก่ ผมก็บอกเขาไปว่าผมเก็บเงินได้ 2 หมื่นแล้ว เถ้าแก่ค่อนข้างมีฐานะ เขาเอ็นดูเพราะผมซื่อๆ ขยันทำงาน เถ้าแก่เขาเลยบอกว่า “กูมีแพเหล็กเก่าๆอยู่ลำนึง จะเอาไหม? ถ้าเอาไปแล้วก็เอาไปทำมาหากินได้เลย มาเอาน้ำมันจากกูไปขายแล้วค่อยหักเอาก็ได้" (คือแพเหล็ก หลายคนอาจจะนึกภาพไม่ออก มันเป็นเหมือนแท้งเก็บน้ำมันเคลื่อนที่ลักษณะเหมือนแพ ลอยอยู่ในน้ำ) เถ้าแก่ให้แพผมมาฟรีๆ ตอนนั้นดีใจมาก แพไม่ใหญ่มากขนา ประมาณ 40 ตารางเมตร ผมใช้เป็นทั้งบ้านเป็นทั้งที่ทำงาน เพราะด้านหน้าแพมีหัวจ่ายน้ำมันอยู่หัวนึง ไว้ใช้ขายน้ำมันให้กับเรือหางยาวกับเรือประมงในแม่น้ำ กลายเป็นว่าผมจะอาศัยอยู่ริมน้ำตลอดเวลา ก็เงินดีพอสมควร จนผมก็พอจะเริ่มสร้างเนื้อสร้างตัวได้ แล้วก็ไปเจอกับเมียผม เขาทำงานเป็นเด็กเสริฟอยู่ร้านอาหารแห่งนึง คบกันได้สักพักเลยชวนกันมาอยู่กินด้วยกันจนมีลูกชายคนนึง ตอนนั้นก็เลี้ยงลูกแล้วก็ทำงานทุกอย่างอยู่บนแพนั้นแหละ แต่ผมยอมรับว่าผมเริ่มมีนิสัยเจ้าชู้ คือจะออกไปเที่ยวคาเฟ่เกือบทุกคืน บ่อยครั้งที่ลูกกับเมียต้องอยู่กันตามลำพัง จนมีอยู่วันนึง ผมก็ออกไปเที่ยวตามประสาของผม ตอนนั้นลูกชายอายุ 5 ขวบได้ เด็กมันก็เอาสวิงมาช้อนปลาเล่นตามปกติของมัน แต่พลาดตกน้ำซึ่งเป็นช่วงเวลาประมาณ 3 ทุ่ม จะมีแค่ไฟจากหน้าแพแค่ดวงเดียว เมียผมได้ยินเสียงก็รีบโดดลงไปช่วย เมียผมเล่าว่าตอนลงไปช่วยมันเห็นเหมือนเส้นผมดำๆ ดึงขามันไว้ (ซึ่งมันก็อาจจะเป็นสาหร่ายอะไรสักอย่างก็ได้ เวลากลางคืนมันจะมืดจนแถบมองไม่เห็นอะไร) พยายามดึงเท่าไหร่ก็ดึงไม่หลุด ต้องขึ้นมาหายใจแล้วดำลงไปดึงใหม่ จนพาขึ้นมาได้ แล้วเมียผมก็อุ้มพาดบ่าให้น้ำออก ผมกลับมาบ้านแบบเมาๆ มาเจอเมียร้องไห้ที่ผมไม่อยู่บ้านเพราะเกือบจะเสียลูกไปแล้ว ตอนนั้นรู้สึกผิดมากๆ ทั้งกลัวทั้งโล่งใจ ที่อย่างน้อยลูกยังไม่เป็นอะไรไป ผมเลยคิดว่าสภาพแวดล้อมแบบนี้คงไม่เหมาะจะเลี้ยงลูก แต่ก็ยังไม่รวยถึงขึ้นจะไปหาซื้อที่บนบกอยู่ได้ เลยพยายามสอนลูกว่ายน้ำแทน จนมันก็พอว่ายน้ำได้ เวลาผ่านไปไม่นาน ผมก็กลับไปเที่ยวเสเพลไปวันๆ เหมือนเดิมอีก จนกระทั่งวันนึงผมกลับบ้านประมาณเที่ยงคืน ผมไม่ได้เมามาก เป็นคนที่ไม่เคยเมาขาดสติจนต้องให้ใครพากลับบ้าน วันนั้นขณะกำลังจะเดินไปที่แพ (ปกติผมมัดแพกับเสาไว้ริมท่า) ผมก็เห็นผ้าสีขาวคล้ายชุดผู้หญิงลอยอยู่กลางแม่น้ำ ห่างจากแพผมอยู่ไม่ไกล พยายามเพ่งมองให้แน่ว่ามันคืออะไรเพราะมันค่อนข้างมืด แต่สีขาวทำให้มันยิ่งดูชัดเจนในความมืด ผมสาบานว่าผมเห็นมันเคลี่อนที่ช้าๆ ไปที่แพ ตอนนั้นมีแต่ความสงสัยเท่านั้น ไม่ได้มีความกลัวใดๆ เลยเดินไปเรื่อยๆ จนใกล้จะถึงแพ ตาของผมจ้องมองผ้าสีขาวนั้นอยู่ตลอดเวลา ยิ่งผมเข้าใกล้แพเท่าไหร่ ดูเหมือนมันจะเคลื่อนที่เข้าไปใกล้แพมากขึ้นเท่านั้น แล้วอยู่ดีๆ ผ้าขาวๆนั้นก็ลอยเข้ามาใส่หน้าผมอย่างเร็ว แว็ปสุดท้ายก่อนที่ผมจะหลับตาเพราะตกใจ สาบานว่าเห็นเป็นผู้หญิงผมดำยาวมากๆใส่ชุดสีขาว แล้วก็หายไป ผมยังจำได้แม่นไม่เคยลืมมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ก็ไม่เคยเล่าอะไรให้ลูกเมียฟังเพราะไม่อยากให้คิดมากกันเปล่าๆ แต่หลังจากนั้นอีกไม่นานก็มีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นอีก
ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
งานศพหลาน!!
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...
-
เกิดขึ้นมาประมาณ 5 ปีก่อนที่บางแสนคุณตุ๊กตาได้เล่าว่าที่สี่แยกไฟแดงแหลมแท่นติดกับโรงเรียนแห่งหนึ่งจะมีซุ้มกาแฟโบราณอยู่แม่ค้าจะ...
-
เป็นตึกแล็บเคมีครับและน่าจะเป็นตึกที่มีเรื่องเล่าเยอะที่สุดของมหาวิทยาลัยนี้แล้ว ตั้งแต่หากยืนหน้าตึกแล้วมองลอดใต้หว่างขาขึ...
-
เราก็เคยเจอเหมือนกัน เพื่อนๆ ร่วมรุ่นก็เจอพร้อมกัน มันเป็นเหตุการณ์ที่นักศึกษาชายกลุ่มหนึ่งกินเหล้าในหอ อาจารย์มาพบหลักฐา...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น