วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ใครในห้องของอีแป้ง !!


          เราต้องขอแนะนำตัวก่อน เราชื่ออั้ม เป็นคนกรุงเทพ แต่ด้วยความเป็นเด็กมหาลัยและเป็นคนชอบเที่ยวมาก จึงไปเที่ยวต่างจังหวัดบ่อยๆคนเดียว เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องของตอนเมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งเราได้ไปเที่ยวที่เชียงใหม่ตอนแรกเราวางแผนจะไปที่นั้นสองคืน สามวัน จึงติดต่อกับเพื่อนไว้ ชื่อแป้ง คือแป้งเป็นเพื่อนสมัยมัธยมแต่มาเรียนต่อที่เชียงใหม่ ซึ่งเรากับแป้งสนิทกันมาก เลยขอไปอยู่ด้วยซะเลย ฮ่าๆๆ เรามาถึงที่เชียงใหม่ตอนบ่ายๆ ซึ่งก็ให้แป้งมารับที่สถานีรถไฟ จากนั้นแป้งก็ชวนเราไปนั่งจิบกาแฟชิลๆ แถวหน้ามอ คุยเรื่อยเปื่อยถามเกี่ยวกับสารทุกข์สุขดิบตามประสาคนที่ไม่ได้เจอหน้ากันมาหลายปี แป้งเล่าว่า “ตอนนี้พักอยู่กับรูมเมทชื่อมดมดเป็นคนเชียงใหม่เรียนคณะเดียวกัน แต่ช่วงนี้นางมีปัญหากับแฟนทะเลาะกันเป็นประจำ” ซึ่งหลังจากที่เราก็โอเคไม่มีปัญหาหรอก มาอยู่แค่สองคืนเอง ตกเย็นหลังจากที่เราทานหมูกระทะกับแป้งเสร็จ ด้วยความเป็นห่วงเพื่อนจึงโทรถามมดว่าตอนนี้อยู่ไหนทำอะไรอยู่ คำตอบที่ได้คือ “อยู่ที่ห้องเหมือนเดิม ฝากซื้อข้าวกับยาพารามาให้ด้วยละกัน” เรากับแป้งก็เลยไปซื้อข้าวซื้อยาพารา ระหว่างทางแป้งบอกกับเราว่า “เวลานางทะเลาะกับแฟนนางเป็นแบบนี้ นางจะชอบนอนซมอยู่ในห้องแต่อย่าไปกังวลเลย ซักพักมันก็ดีกันเอง กูชินละ เมื่อเรากับแป้งมาถึงที่ห้องก็พบว่ามด นางนอนอยู่ที่เตียงเขี่ยโทรศัพท์ไปมาอยู่บนที่นอนจากนั้นแป้งก็แนะนำเราให้กับมดว่าคืนนี้จะมานอนด้วย ซึ่งมดก็ไม่มีปัญหาจากนั้นแป้งก็จัดเตรียมที่นอนให้เรา  ในห้องของแป้งถือว่าไม่ใหญ่มากแต่ก็พออยู่ได้ในห้องก็จะมีเตียงใหญ่ๆหนึ่งเตียง ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะแป้ง ข้างนอกเป็นระเบียงมีประตูกระจกกั้นไว้ ซึ่งบอกก่อนว่าระเบียงข้างนอกห้องสวยมาก เห็นวิวดอยสุเทพชัดแจ่วเลยถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว ถัดจากประตูกระจกลานเลื่อนก็จะเป็นห้องน้ำ โดยรวมถือว่าน่าอยู่เลยทีเดียว เราก็รีบอาบน้ำอะไรเสร็จสรรพ เพราะความเหนื่อยจากการเดินทางจึงทำให้เราง่วงมากเรานอนพอดีกับประตูกระจกบานเลื่อนของระเบียงห้องซึ่งไม่ได้ปิดผ้าม่านเอาไว้เราก็ปลุกนาฬิกามือถือเอาไว้ตอนตีห้า เพราะเราวางแพลนว่าจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิวดอยสุเทพในตอนเช้า ตอนตีห้าที่มือถือได้ตั้งปลุกดังขึ้น ด้วยความงัวเงียในตอนเช้าเราก็ลืมตาขึ้นมาไปมองที่ระเบียงในจังหวะนั้นเองเราเห็นเหมือนว่ามีใครโดดลงมา ห้องของแป้งซึ่งอยู่ชั้นสามซึ่งหอพักมีอยู่ทั้งหมดห้าชั้น ด้วยความตกใจจึงรีบวิ่งออกไปที่นอกระเบียงกลัวว่าจะมีคนโดดตึกแต่กลับไม่พบอะไรเลย ก็คงตาฝาดไปเองละมั้งเราก็คิดในใจ หลังจากเราอาบน้ำเสร็จเราก็ปลุกแป้งให้ไปอาบน้ำ เพื่อจะได้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นทัน หลังจากที่เรากับแป้งเตรียมพร้อมกันเสร็จแล้ว เราก็รีบออกมาจากห้องโดยทันทีทิ้งไว้ให้มดอยู่ที่ห้องคนเดียว (เนื่องจากมดนางไม่สบายนางเลยไม่ไปไหนทั้งนั้นเมื่อคืนเราก็ชวนนางไปดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกันแล้วหลายรอบ) หลังจากที่เรากับแป้งไปดูพระอาทิตย์ขึ้นเสร็จ สายๆไปเที่ยวสวนสัตว์ต่อ แล้วตอนบ่าย
ก็เข้ามาเที่ยวในมหาลัย จนตอนเย็นเรากับแป้งก็เลยตกลงว่าจะไปเที่ยวผับกันจึงต้องกลับไปที่ห้องของแป้งเพื่อไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดสำหรับการไปเที่ยวคืนนี้เมื่อมาถึงห้องก็พบว่ามดยังนอนซมอยู่ที่ห้องเขี่ยมือถือไปมาอยู่ ตอนนั้นแป้งเข้าไปอาบน้ำก่อนระหว่างนั้นมดก็บอกกับเราว่า “กูเครียดว่ะ ทำไมชีวิตต้องมาเจอคนเฮงซวยอย่างนี้ด้วย”จากนั้นนางก็ร้องไห้โฮออกมา “กูไม่อยากให้แป้งไม่สบายใจเกี่ยวกับเรื่องที่ทะเลาะกับแฟนบ่อยๆเพราะแค่เรื่องการเรียนอีแป้งมันก็เครียดมากพอตัวอยู่แล้ว” เราก็ได้แต่ปลอบใจนางแหละเพราะเรารู้เพียงแค่ว่านางมีปัญหาเรื่องทะเลาะกับแฟน “เอาน่าชีวิตมีขึ้นมีลงเป็นธรรมดาใครมันจะไปเจอกับเรื่องร้ายๆได้ตลอดป่ะว่ะ” เราพยายามบอกให้นางอดทนเข้าไว้

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...