วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2561

นั่งเล่าเรื่องผีกันก่อนนอน !!


       เริ่มเลยนะคะ เรื่องเกิดขึ้นเมื่อประมาณช่วงเดือนสิงหา 2556 ค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า แม่และทางสำนักงานต้องไปจัดบู๊ทและเข้าประชุมในกิจกรรมวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ พ.ศ.2556 ระหว่างวันที่ 6-21 สิงหาคม 2556 ณ BITEC บางนา แต่ทางสำนักงานของแม่ถูกจัดให้เข้าร่วมงานวันที่ 13 สิงหาค่ะ ซึ่งพวกเราเลยเลือกเดินทางกันเช้า 12 สิงหาคม ประมาณ 10 โมงเช้า เราและน้องสาวก็ติดสอยห้อยตามแม่ไป เพราะแม่อยากให้เป็นเพื่อน กับ12ชั่วโมงที่เดินทางด้วยรถตู้จากขอนแก่นถึงกรุงเทพฯ เป็นช่วงเวลาที่ลำบากมาก ขาเข้ากรุงเทพติดแหงก จราจรเป็นอัมพาตเพราะคนเดินทางกลับจากต่างจังหวัดพอดีค่ะ โรงแรมที่อ่านรีวิวแล้วรีวิวเล่าแบบดีๆ หลายดาวที่จองไว้ก็มี แต่ก็ป่วยการเมื่อมาถึงบางนาในประมาณ 4เกือบ5ทุ่ม ฝนตกหนัก ถนนน้ำท่วม มองไม่เห็นทางอีก จะไปโรงแรมที่จองไว้ก็ไม่ได้ เพราะฝนตกหนักมากค่ะ ก็เลยพากันตัดสินใจว่าจะหาโรงแรมแถวไบเทคนอนเลยละกัน ตื่นเช้ามาจะได้ไปง่าย รถไม่ติดเท่าไหร่ (ลืมบอกไปค่ะ มีสมาชิกไปกัน 6 คนมีเรา น้องสาว แม่ ลุงที่ทำงานแม่ น้าที่ทำงานแม่และคนขับค่ะ) เมื่อขับรถวนหาโรงแรม โรงแรมแล้วโรงแรมเล่า สุดท้าย เราก็เจอโรงแรมเจ้าปัญหาซึ่งเป็นสาเหตุของเรื่องเมื่อคนขับรถเลี้ยวเข้าโรงแรมนั้น เราพบถึงความวังเวงมาก รถจอดที่หน้าทางเข้าไปเค้าท์เตอร์หน้าโรงแรม แม่และน้าไปเจรจากับพนักงานเพื่อถามว่าห้องพักว่างมั้ย คำตอบคือว่าง ดังนั้นเลยจัดแจงยกกระเป๋าลงมาและให้คนขับรถเอารถไปจอดให้เรียบร้อยค่ะ เราเปิด 2 ห้อง โดยห้องเป็นเตียงคิงไซส์ 1 เตียง และเตียงเดี่ยว 1 เตียง โดยแยกเป็นลุงที่ทำงานแม่+คนขับรถ/ และห้องเรามีแม่ น้องสาว และน้า คือตั้งแต่ทางเดินเข้าไปที่ห้องพัก โคตรสกปรก ดูแบบร้างมากค่ะ ประสบการณ์หนังผีที่เคยดูมาเริ่มพรั่งพรูเข้ามาในหัวใจ 555555 แต่ต้องบอกก่อนเราเป็นคนไม่กลัวผีนะ เลยไม่ได้อะไรมากมาย แค่มีที่นอนให้นอนก็พอ พรุ่งนี้ก็เช้า พนักงานโรงแรมพาไปที่ห้องพักค่ะ นึกภาพตามนะคะ เป็นกรอบสีเหลี่ยม ห้องพักจะติดกรอบ แต่มีที่ว่างตรงกลาง แล้วไม่มีหลังคา ฝนตกพรำๆเลยหล่ะทีนี้ เศษฝนกระเด็นติดประตูห้อง พร้อมทั้งมีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า "ไส้เดือน" ใต่เต็มพื้น และกำลังจะใต่ลอดเข้าประตูห้องเข้า แต่เดชะบุญพนักงานคนนั้นเอาเท้าเหยียบไส้เดือนแล้วเตะทิ้งไป ช็อคสิครับงานนี้ พวกเราเลยรีบเข้าไปในห้องและปิดประตูล็อค เพราะบรรยากาศนอกจากจะวังเวงแล้ว พนักงานยังซาดิสต์เหยียบไส้เดือนอีกตัดมาที่ตอนเปิดประตูเข้าห้อง เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไป บอกเลยห้องอับมาก ด้วยความที่ถึงดึก ต่างคนต่างง่วงนอน แต่ก็อยากอาบน้ำเพื่อชำระร่างกายให้สะอาด จะได้นอนสะบายๆ เรากับน้องถูกเนรเทศให้นอนเตียงเดี่ยว (เราก็ตัวเท่าคะวาย น้องก็ตัวโตกว่าวัวนิดหนึ่งนอนกันทีเป็นปลาป๋อง) ส่วนแม่กับน้านอนเดียงใหญ่ค่ะ ...ด้วยความที่แปลกที่เราเลยสำรวจห้องนิดหนึ่ง ดูเตียงสะบัดผ้าห่ม เปิดตู้เสื้อผ้า และที่สุดท้ายที่เข้าไปดูคือ...ห้องน้ำ โอ้โหว...ท่านผู้ชม ห้องน้ำเดินเข้าไปแล้วแทบซึ้งค่ะ ไม้ที่กั้นห้องขาด ปลวกกัด สายไฟอะไรไม่รู้ระโยงระยายบนเพดาน มีเครื่องทำน้ำอุ่นอยู่ด้านซ้ายมือ แน่นอนค่ะไม่กล้าใช้เครื่องทำน้ำอุ่นเพราะกลัวไฟรั่ว เฮ้อเมื่อเห็นสภาพห้องน้ำ เลยตัดสินใจไม่อาบน้ำนอน ล้างหน้าแปรงฟันเฉยๆ (ขอตัดเลยนะคะ) และแล้วทุกคนก็นอนนก๊อกแก๊กๆ ก๊อกแก๊กๆ เสียงเหมือนคนบิดประตูดังขึ้น ไอ้เราก็สะลึมสะลือแบบเสียงใครวะ มาบิดก๊อกแก๊กๆประตู คนจะหลับจะนอนนะเฟร้ยยย ตอนแรกนึกว่าแม่ หรือไม่ก็น้าไปเข้าห้องน้ำ พอเหงยหน้ามองก็เห็น 2 คนนอนอยู่เตียงข้างๆ (เราเป็นคนชอบนอนคว่ำค่ะ) เลยเหงยหน้าหันมองไปอีกทางของประตู ทางห้องน้ำ หึ หึ ชัดเจนเลย เป็นผู้หญิงผมสั้นใส่ชุดเสื้อยืด กางเกงขาสั้น (สีอะไรไม่รู้ค่ะ มันมืด แต่ด้วยสายตาชินกับความมืด เลยพอเห็นว่าแต่งตัวยังไง) กำลังบิดลูกบิดประตูห้องน้ำแก๊กๆอยู่อย่างนั้น และแล้วเธอก็บิดสำเร็จ และเดินเข้าไปในห้องน้ำ พร้อมปิดประตูดัง "แกร๊ก" (อื้อหือดันมาเปิดได้ตอนตรูตื่นนะ อยากเซอร์ไพร์ซตรูหล่ะสิ) ด้วยความที่เราสะลืมสะลืม เลยไม่ได้ตกใจหรือสนใจอะไร คือตอนนั้นง่วงมากค่ะ จริงๆนะคะ เราเลยตัดสินใจพลิกตัวมาอีกทางซึ่งจะเป็นการนอนหงายแบบเต็มรูปแบบ และทำให้เราตกใจอีกรอบ เมื่อมีผู้หญิงผมยาว ใส่ชุดกระโปรงนั่งก้มหน้าอยู่เก้าอี้ตรงข้ามกับเตียงเรา โอ้โหแม่เจ้าแท็คทีมเป็นคู่หูดูโอ้กันมาเลยทีเดียว ถามว่าตอนนั้นกลัวมั้ยบอกเลยว่า "ง่วง" เชื่อมั้ยคะ เราเจอแบบนั้นไม่รู้ว่าด้วยความบ้าบิ่นอะไร เราไม่สนใจอ่ะ เอนตัวลงนอนต่อยันเช้าเลย เมื่อเช้า เราก็ตื่นก่อนเพื่อน ไปล้างหน้าแปรงฟัน เปลี่ยนชุดแล้วมาปลุกน้องสาว แม่และน้า เมื่อทั้งหมดเริ่มมีสติจากการตื่นนอนหมดแล้ว น้าก็ได้เล่าเหตุการณ์ที่น้าเจอะเจอเมื่อคืนให้ทุกคนในห้องฟังกัน น้าเล่ามา "เมื่อคืนตอนดึกๆ อยู่ดีๆก็รู้สึกเหมือนปวดหัวเหมือนใครไม่รู้มากดๆหัว เลยลืมตาขึ้น พบว่าเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังกดหัวตัวเองอยู่ น้าช็อคมาก น้ารีบคว้าพระบนหัวนอนที่น้าเอามาด้วยมาใส่แล้วหลับตาสวดมนต์ แล้วผู้หญิงคนนั้นก็หายไป น้ากลัวมากจนเผลอหลับไปเอง" ไอ้เรานั่งฟัง ก็เลยขำ แล้วก็เล่าเรื่องราวที่เราเจอเมื่อคืนให้น้าฟัง ทุกคนขนลุกมาก แม่ก็บอกเหมือนกันว่ารู้สึกเหมือนมีใครมาเดินรอบห้องทั้งคืน เราเลยบอกทุกคนว่า "อย่าไปกลัวเลย เขาคงมาขอส่วนบุญ เขาไม่ได้มาทำอะไรซะหน่อย" พูดจบเราเลยนั่งสวดมนต์แผ่เตตาให้เขา และเมื่อทุกคนทำภารกิจของตัวเองเสร็จแล้วก็เช็คเอาท์ออกจากโรงแรมอันแสนน่ากลัวนี้ให้เร็วที่สุดทันทีไขปริศนา เป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่เจอเรื่องผีๆที่โรงแรมค่ะ ก่อนเข้าโรงแรมและก่อนนอนเราไหว้เจ้าที่ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อขออนุญาตพัก และช่วยปกปักรักษาค่ะ แต่เราก็มีการแก้เคล็ดนะคะ  โดยการวางรองเท้ากลับหัวกันที่ไม่ค่อยกลัว เพราะเป็นคนมีเซ้นส์ค่ะ และเป็นคนธรรมะธรรมโม เจอแบบนี้ตั้งสติแผ่เมตตาอย่างเดียวเลยเป็นคนไม่ห้อยพระค่ะ เพราะเขาบอกว่า "เป็นคนดี ถึงไม่ห้อยพระก็มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามคุ้มครอง" เรามั่นใจว่าเราเป็นคนดี เขาถึงมาขอส่วนบุญกับเรา ส่วนน้าที่โดนจัดไปนั้นแม่มาเล่าให้ฟังทีหลังค่ะว่าเขาชอบโกงเงินสำนักงาน เหอะๆก่อนเราออกจากห้องนั้นเราบอกเขาว่า"ไปแล้วนะ แผ่ส่วนกุศลให้แล้วนะคะ ขอให้ไปเกิดและเลิกวนเวียนได้แล้วนะ หนูขออนุญาตปลดปล่อยวิญญาณคุณทั้งสองค่ะ อย่าได้จองเวรและพยาบาทใคร และขอบคุณที่ดูแลกันจนเช้า ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดีอะไร" พร้อมแผ่เมตตาให้อีก 1 จบค่ะ

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...