วันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2561

มองผ่านช่อง !!



        
          โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องของน้าสาวคนหนึ่งที่อยู่คนละบ้านกันที่ได้พบเจอกันเหตุการนี้แล้วก็นำมาเล่าให้ฟัง โดยเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นมา 10 ปีที่แล้ว น้าของปอนอาศัยอยู่ที่กรุงเทพ แต่ว่าในช่วงนั้นได้ไปอาศัยอยู่ที่บ้านของญาติในจังหวัดอยุธยาเนื่องจากมีการจัดงานศพของลุงของน้าที่นั้น น้าก็เลยต้องเดินทางไปช่วยงานและค้างที่นั้นเลย โดยบ้านที่อาศัยอยู่นั้นจะเป็นบ้านไม้สองชั้นยกใต้ถุนสูงก็เหมือนกันกับบ้านต่างจังหวัดทั่วๆไป งานศพของลุงมีการสวดพระอภิธรรมเพียงแค่ 3 วัน เนื่องจากไม่ค่อยมีกำลังทรัพย์มาก ลุงของน้านั้นชื่อว่าลุงพจน์ โดยลุงแกเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ก็คือว่าลุงแกกำลังขับรภกลับบ้านแล้วก็เกิดหลับในเสียหลักชนกลับเสาไฟฟ้าร่างของลุงกระเด็ดออกมาจากรถเสียชีวิตคาที่ น้าของปอนด์ก็ได้มาร่วมงานและอยู่จนจบในส่วนของการช่วยงานนั้นในวันแรก และวันที่สองผ่านไปได้ด้วยดี โดยมีคนมาร่วมก็พอสมควรทุกๆคนนั้นก็ต่างแสดงความเสียใจ กลับการจากไปโดยไม่มีวันกลับของลุงพจน์ เพราะว่าแกนั้นจะมีนิสัยที่ร่าเริงและตลกป็นกันเองและที่สำคัญแกเป็นคนขยันมากๆ จนบางทีอาจจะทำให้ร่างการพักผ่อนไม่เต็มที่หรือทรุดโทรมมากเกินไป จึงทำให้เกิดเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้น จนกระทั่งเข้าสู่คืนวันที่ 3 ก่อนที่จะเผาศพเหตุการณ์ก็ได้ดำเนินการไปอย่างปกติทุกอย่าง ถึงเวลากลางคืนหลังจากงานศพเสร็จสิ้นแล้วก็แยกย้ายกลับไปนอนกันที่บ้านงาน ซึ่งก็คือบ้านของลุงพจน์นั้นเอง โดยบ้านหลังนั้นนอกกันทั้งหมด 5 คน ก็คือ ภรรยาของลุงพจน์ น้า ลูกของลุงพจน์ และญาติผู้ชายอีก 2 คน ส่วนญาติที่เหลือนั้นก็นอนกับอยู่ที่บ้านใกล้ๆ เพราะว่ามีบ้านที่ปลูกใกล้ๆในบริเวรนั้นเยอะพอสมควร เวลาได้ล่วงเลยผ่านไปถึงตี 2 กว่าๆ น้าของปอนด์ที่กำลังนอนอยู่ในมุ้ง ก็มีทั้งลูกของแกและภรรยาของลุงแกอยู่ด้วย ส่วนอีกมุ่งหนึ่งที่อยู่ข้างๆกัน ก็เป็นญาติอีก 2 คน ที่กำลังนอนกันอยู่ น้าของปอนด์ลุกออกจากมุ้งนอกจากเกิดอาการปวดท้องเป็นอย่างมาก แต่บ้านที่อยู่นั้นห้องน้ำจะมีแต่ชั้นล่างเท่านั้น และน้าเป็นคนที่กลัวผีมากๆก็ไม่ค่อยจะกล้าลงไปและในใจนั้นก็ไม่อยากจะปลุกใครเพราะเกรงใจ จึงตัดสินใจที่จะเดินห่างจากมุ้งสักประมาณหนึ่ง แล้วก็คิดว่าจะฉี่ผ่านร่องพื้นที่ปูด้วยไม้ ซึ่งพื้นนั้นมีระยะห่างของแผนไม้อยู่พอสมควรและสามารถมองลอดดูใต้ถุนบ้านได้ พอน้าคิดแบบนั้นจึงนั่งลงเตรียมตัวที่จะฉี่ แต่ว่าเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น น้าได้ยินเสียงฝีเท่าที่เดินมาจากหน้าบ้าน ลักษณะที่กำลังเดินมานั้นเหมือนกับกำลังเตะนั้นเตะนี้หรือไม่ก็สะดุดเศษขยะ เริ่มที่จะดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ น้าตอนนั้นก็ไม่ได้ก้มไปมองเพราะคิดว่าแค่นั่งฉี่เฉยๆ พอฉี่เสร็จก็ว่าจะไปเข้ามุ้งนอนต่อ แต่ด้วยกลับเสียงฝีเท้าที่เริ่มเข้าใกล้นั้นจึงทำให้น้าต้องมองลอดลงไป สิ่งที่น้าเห็นนั้นก็คือ รูปร่างของผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาใต้ถุนบ้านและมือนั้นพยายามจะจับสิ่งของต่างๆ ชายคนนั้นกำลังจะหยิบฝาชีขึ้นเพื่อที่จะดูอาหารเปิดดูตู้กับข้าวแล้วก็นั่งลงที่เก้าอี้ตรงโต๊ะกินข้าวสิ่งที่น้าเห็นนั้นชัดเจนเพราะได้เปิดให้ใต้ถุนเอาไว้ตั้งแต่ก่อนเข้านอน และก็เพราะแสงไฟที่ทำให้น้าเห็นภาพทุกอย่างแบบชัดเจน จนเป็นที่มาที่ทำให้น้าขนลุกไปทั้งตัวในทุกๆอิริยาบถของชายคนนั้น ตั้งแต่เดินเข้ามาหยิบจังโน้นนี่ที่อย่างที่น้าเห็นชายคนนั้นไม่มีศรีษะลักษณะเหมือนกับคนที่หัวขาด ความรู้สึกของน้าตอนนั้นเหมือนกับคนจะเป็นลบสิ้นสติแต่ว่าน้าก็ค่อยๆรวบรวมสติทั้งหมด แล้วก็ลุกขึ้นวิ่งกลับเข้าไปที่มุ้ง โดยที่มีอาการสั่นไปทั้งตัวพร้อมกับความกลัวสุดขีด อีกอย่างก็คือน้านั้นไม่ทันที่จะได้ฉี่ก็เจอแบบนี้สะแล้ว พอเช้าวันต่อมาน้าก็ได้เล่าเรื่องราวต่างๆให้ญาติฟังว่าสิ่งที่เจอคือใคร น้าก็ได้จำการแต่งตัวของคนหัวขาดคนนั้น ว่าใส่กางเกงขายาวและใส่เสื้อลายร้องเท้าแตะ ก็เล่าไปทุกอย่างที่เห็น ทุกคนที่ได้ฟังและบางคนก็เริ่มร้องไห้ออกมา โดยเฉพาะภรรยาและลูกของลุงพจน์เพราะเค้ารู้ดีว่าชายที่กลับมาบ้านเมื่อคืนนี้ ที่น้าของปอนด์ได้เห็นผ่านไม้กระดานก็คือลุงพจน์นั้นเอง ส่วนในเรื่องที่ไม่เห็นหัวอันนี้ต้องบอกก่อนว่า สภาพศพของลุงนั้นใจช่วงของคอลุงนั้นไม่ได้ขาดแต่อยู่ในเชิงเละมากกว่าเพราะว่าศพนั้นถูกถูไปกับพื้นถนน และเรื่องราวทั้งหมดก็มีเพียงเท่านี้ครับ

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...