วันเสาร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2561

ร้านข้าวท้ายซอย !!

              

                 สมัยช่วงที่เรียบอยู่ในมัธยมในช่วงนั้นในตอนที่เรียนมัธยมก็จะมีแต่ร้านข้าวที่อยู่แต่ในโรงอาหารเท่านั้นแต่จะมีร้านข้าวที่อยู่รอบๆโรงเรียนซึ่งเป็นคุณน้าของเพื่อน ซึ่งน้าของเพื่อนนี้มีเงินอยู่ก่อนหนึ่งแต่ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร จึงเลือกที่จะเปิดร้านขายกับข้าวแต่หาที่ขายไม่ได้สักที แต่มีที่อยู่ที่หนึ่งนั้นก็คือถนนท้ายวัด สภาพซอยนั้นก็จะเป็นซอยตันที่ทะลุไปไหนไม่ได้ แต่ใกล้กับโรงเรียบเดินไปไม่กี่ก้าวก็ถึงเพราะมีทางลัด แต่ด้านหลังวัดนั้นก็จะเป็นคลองน้ำทิ้ง พอคุยกันเรื่องเช่ากันเสร็จก็ให้คนมาถมที่ดิน และก็ได้เป็นร้านกับข้าวขึ้นมาด้วยน้าคนนี้นั้นทำกับข้าวอร่อยจึงมีเด็กไปกินข้าวกันเยอะจนกระทั้งเก็บเงินเก็บทองได้ แต่บริเวณรอบๆร้านนั้นไม่ค่อยดีเท่าไหรนักเพราะเป็นซอยตัน ด้านหลังก็เป็นคลองฝั่ง ด้านซ้ายมือเดินไปอีกประมาณ 300 เมตร จะเป็นในเมรุ และสุสานจนเด็กที่มากินข้าวทุกวันนั้นได้ถามจะ แกว่าป้าอยู่ตรงนี้ไม่กลัวมั้งหรอ แล้วป้าแกเป็นคนไม่กลัวผีอยู่แล้วด้วยแต่ร้านป้านั้นขายดีมาก มีเด็กบางคนไม่ยอมกินข้าวเที่ยงเพื่อรอเลิกเรียกแล้วมากินร้านป้า โดยป้านั้นเก็บเงินได้อยู่ก้อนหนึ่งป้าแกจึงสร้างที่นอนเอาไว้กับใกล้ๆร้านเอาไว้แค่สะดวกเท่านั้น โดยมีเหตุการณ์อยู่เหตุการณ์หนึ่ง คือป้าแก่เป็นคนไม่กินเนื้อวัวเลย แต่เด็กๆร้องขอมาว่าอยากกินเนื้อป้าก็เลยไปซื้อมาแต่พอเนื้อเหลือป้าแกก็ตัดแล้วเอาไป "ไหว้ผี" หลังร้านของป้า แล้วเด็กบางคนรู้ก็ถามป้าว่าไม่กลัวหรอป้าก็บอกไม่กลัวนะเพราะบางทีก็มีสัมภเวสีมาขอ จนกระทั่งมีเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่งมีการซ้อมกีฬาที่โรงเรียนแล้วเลิกช้าประมาณ 6 โมงเย็นกว่าๆ เด็กนึกหิวก็เลยไปกินข้าวร้านป้าข้างโรงเรียน ซึ่งในระหว่างผัดข้าวนั้นป้าแกก็ไอออกมาแต่น้ำลายดันตกไปในข้าวที่กำลังผัดอยู่เด็กเห็นก็เลยบอกป้า ว่าป้าน้ำลายป้าตกไปในข้าวแล้วเนี้ย ป้าแกก็บอกว่าโอเคเดียวป้าทำให้ใหม่นะ แล้วป้าก็เอาข้าวที่มีน้ำลายเอาไหว้ผี จึงมีเด็กถามป้าว่า ป้ามันเลอะน้ำลายแล้วไม่ใช่หรอ "ป้าก็บอกว่ากินๆไปเถอะน่าดีกว่าไม่มีกิน" เด็กก็นั่งกินข้าวตามปกติแต่ป้านั้นมีความรู้สึกเหมือนกับมีคนจ้องมองแกอยู่ ป้าจึงถามไปยังเด็กกลุ่มนี้ว่ามากับใครหรอ เด็กก็จึงบอกว่าผมมากันแค่สามคนครับ แล้วป้าก็กลับมาเด็กถึงกับตกใจ เพราะป้าได้บอกว่า "แล้วใครยืนอยู่หลังเสาไฟฟ้าละ" เด็กก็หันไปกับไม่พบคนยืนอยู่ แต่ป้าก็ยังยืนยันที่จะบอกว่ามีคนยืนอยู่หลังเสาไฟจริงๆใช่เพื่อนเราหรือป่าว เด็กก็ได้ถามป้าว่ามีลักษณะอย่างไร ป้าก็ตอบไปว่าเป็นผู้ชายหลังค่อมๆ เด็กๆก็คิดว่าป้าอำเล่นๆหรือป่าว จนกระทั่งคืนนั้นป้าจะต่อเติมหลังบ้านจึงให้ญาติๆมาช่วย และในตอนนั้นที่ป้าแกกำลังอาบน้ำอยู่นั้นอยู่ดีๆก็โวยวายออกมาไปบอกว่าพี่ๆ ขึ้นไปดูอะไรหน่อยในห้องน้ำมีคนมาแอบดูหนู ระหว่างที่วิ่งออกไปนั้นก็ได้ยินเสียงเหมือนคนกระโดดลงคลอง แต่พวกช่างที่จะมาต่อเติมบ้านนั้นก็วิ่งไปดูที่คลองแต่กลับไม่มีความสั่นไหวของน้ำเลย ด้วยห้องน้ำที่ยังแต่งเติมไม่เสร็จพวกช่างจึงสงสัยว่ามายังไง พอรุ่งเช้าช่างก็ได้ทำการเกลี่ยหน้าดินเพื่อนที่จะขยายพื้นที่ของร้านออกไป ปรากฏว่าระหว่างที่ทำอยู่นั้นดันไปเจอโครงกระดูกประมาณ 4-5 โครงแต่ป้าก็ไม่ได้กลัวอะไร แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ป้าแกนั้นได้มีคนมาจีบ และป้าก็เป็นคนขยันด้วยจึงได้คบหากับคนๆหนึ่งแต่ระหว่างที่คบกับคนนี้นั้นก็ได้ขี้เกียจ 

         หลังจากนั้นป้าเปลี่ยนคนคบหาบ่อยมากเวลาเด็กมากินข้าวก็จะหงุดหงิดใส่เด็กตลอด ซึ่งเปลี่ยนไปแบบคนละคนจนมีญาติมาถามว่า เห้ยเป็นอะไรว่ะ โดยป้าก็ไม่คุยด้วยเงียบใส่หรือไม่คิดอยากจะทำอะไร มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ป้าแก่ออกไปไหนมาไหนคนเดียวตอน 4 ทุ่ม 5 ทุ่มหลังจากที่ปิดร้านแล้วก็ชอบกลับมาในตอนเวลาตี 3 ตี 4 ประจำ จนกระทั่งมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ป้าแกเพ้อถึงผู้ชายคนนี้มาก จึงมีญาติถามขึ้นมาว่าคบกับใครอยู่แกก็ตอบมาว่าไม่มีไม่ได้คบกับใครแค่คุยเฉยๆ แต่ช่วงหลังๆนี้แกจะขายตามอารมย์ อยากขายก็ขาย แต่มีความสังเกตที่ว่าเจ๊แกผอมลงและเล็บของแกสีดำทุกนิ้วผมลุงลังหลังๆเด็กก็ไม่อยากจะไปกินเท่าไหร จนมีคนมาถามว่า อยากรู้จริงๆเลยว่าแฟนเจ๊นี้ใครหรอ เจ๊ก็บอกว่าเจ๊ไม่รู้จักแต่คุยกันมานานแล้ว 2-3 เดือน แต่ชอบเค้ารักเค้าอยากไปอยู่กับเค้า แล้วก็ถามต่อว่า แล้วแฟนเจ๊หน้าตาเป็นยังไงหรอ แฟนเจ๊แก่แล้วหลังค่อม มีอายุเค้าไม่กล้าออกมาหาหนูหรอก จนกระทั่งอาการเริ่มหนักไม่กินข้าวจนเข้าโรงพยาบาล หมอก็บอกว่าเจ๊แกอาจจะเป็นไวรัสตับอักเสบ ก็เลยให้ยามากินแต่ทางเจ๊นั้นพยายามจะหนีหมอโดยตลอด ญาติก็เลยพาไปหาพระอาการกลัวแก่หยุด ทางญาติก็เลยคิดว่าผีคงไม่ได้เข้าหรอกแค่ไม่สบายเฉยๆ คืนนั้นแกก็หลับปกติแต่กับพบเจ๊คุยกับผู้ชายคนนี้ด้วยความอยากรู้ว่าเจ๊นั้นคบกับใครจึงลุกขึ้นไปดู กับผมว่าเจ๊คุยกับใครไม่รู้แต่ไม่เห็นตัว หลังจากนั้นแม่ของเจ๊ก็ได้เจอคนหลังค่อมที่คิดว่าเป็นแฟนของลูกสาวจึงบอกว่าลูกสาวไม่สะบายไปเจอที่ร้านได้ไหม หลังจากนั้นแม่ก็เอาเรื่องนี้ไปบอกกับลูก และลูกก็ตอบกลับมาอย่างน่าตกใจว่า "ไม่เป็นไรแม่เดียวหนูก็ไปอยู่กับเค้าแล้ว" จนกระทั้งอาการเริ่มทรุดลงเลื่อยๆ จบเข้าโรงพยาบาล เป็นช่วงเดียวกันที่แม่ของเจ๊นั้นลงไปข้างล่างแล้วตั้งข้าวเอาไว้ข้างๆ แต่พอแม่กลับมากลับเห็นผู้ชายหลังค่อมๆกำลังป้อนข้าวลูกสาวอยู่ แม่ก็คิดว่าโอเคให้แฟนเค้าอยู่ด้วยกัน แต่มันมีการผิดสังเกตที่ว่า 3 ทุ่มแล้วทำไมไม่มีใครออกมาจากห้อง พอแม่เดินเข้าไปกลับพบว่าข้าวที่ซื้อมานั้นกลับไม่มีการเปิดใดๆเลย ก็เลยไปถามพยาบาลว่ามีใครมาป้อนข้าวลูกสาวของฉันไหม พยาบาลก็ตอบไม่มีนะค่ะ แม่จึงมาปลุกลูกแล้วถามลูกว่า มีคนมาป้อนข้าวลูกไหม ลูกก็ตอบมาว่า "มีจ๊ะ" แล้วแม่ก็ถามว่าเค้าไปไหนแล้วละเค้าไปแล้วค่ะเดียวเค้าจะกลับมารับหนู แม่ก็แปลกใจว่ามันมีอะไรแปลกๆนะ หลังจากนั้นก็อาการดีเป็นเหมือนปกติมีน้ำมีนวล หลังจากนั้นช่วงบ่าย 3 เจ๊เสียชีวิตแต่กับพบว่าหนังของเจ๊นั้นติดกระดูด เปรียบเสมือนว่าตายมานานแล้ว หลังจากนั้นทางญาติก็ไปถามว่านิสัยเป็นอย่างไรหรอ หลวงพ่อก็บอกว่าขี้เมา ขึ้เกียจ แถมยังชอบกินลาบเลือด ในตอนนั้นเด็กๆก็อึ้งกับอาการของป้า เพราะป้าเคยมีอาการคุยคนเดียวอยู่บ่อยๆ และในตอนกลางคืนก็ชอบออกไปไหนมาไหนคนเดียว

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...