วันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2561

สองแม่ลูก !!


                 เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าจากพี่คนหนึ่งเราขอไม่เอยชื่อแต่จะขอเป็นนามสมมุติแทน โดยพี่คนนี้ชื่อพี่พลเล่าถึงประสบการณ์สยองขวัญของตัวเอง แกเล่าว่าในตอนนั้นแกได้ไปแข่งฟุตบอลที่สนามกีฬาของอีกหมู่บ้านหนึ่ง ซึ่งหมู่บ้านที่นั้นพี่พลต้องขับรถไปราวๆ 5 กิโลเมตร โดยทางที่พี่พลขับไปนั้นเป็นทางลัดตัดทุ่งนาเป็นถนนคอนกรีดเส้นเล็กๆ ทั้งสองข้างทางจะเต็มไปด้วยทุ่งนา และสวนผลไม้บ้างเป็นบางช่วง เรื่องราวก็ดันมาเกิดในตอนขากลับ พี่พลนั้นได้แข่งบอลเสร็จในตอนเวลาเกือบทุ่มฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อยๆ โดยแกก็ขับรถกลับบ้านใช่เส้นทางเดิมขับมาเรื่อยๆจบเกือบถึงสะพานปูนเล็กๆทำขึ้นมาเพื่อใช้ในการข้ามคลองชลประทานประมาณ 50 เมตร แสงไฟจากหน้ารถมอเตอร์ไซต์ดันสาดไปพบกับสิ่งที่ผู้ข้างหน้า พี่พลถึงเพ่งมองดู เห็นเป็นผู้หญิงใส่ผ้าถุงลายๆใส่เสื้อแขนกุดสีดำเดินจูงมือเด็กผู้ชายตัวน้อยใส่กางเกงกีฬาสีน้ำเงินแต่ไม่ใส่เสื้อกำลังที่จะเดินขึ้นสะพานปูนนั้น ดูดแล้วน่าจะเป็นแม่ลูกกัน พี่พลก็อดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าเวลาขนาดนี้ยังมีคนมาเดินแถวนี้อยู่อีกหรอแถมยังเป็นผู้หญิงกับเด็กอีกด้วยทางเปลี่ยวๆแบบนี้เสี่ยงอันตรายไม่น้อยเลย เพราะปกติแล้วเส้นทางนี้จะมีแต่คนทำนาและทำสวนเค้าใช้กันไม่ค่อยมีใครสัญจรไปมาถ้าไม่จำเป็นจริงๆ พอสิ้นความคิดรถก็ขึ้นมาบนสะพานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถึงในจุดที่แม่ลูกคู่นั้นอยู่พอดีพี่พลมองดูเพื่อที่จะถาม แต่ในทันใดนั้นเองพี่พลถึงกลับตกใจจนหัวใจแทบจะหยุดเต้น เพราะแกเห็นร่างของคนเป็นแม่ไม่มีหัว ส่วนลูกชายก็มีใบหน้าแหว่งไปข้างหนึ่งเห็นในระยะประชิดขนาดนี้พี่พลก็เลยสติแตก ขับรถแหกปากร้องลั่นทุ่งออกมาว่า "ผีหลอก โว๊ย ผีหลอก" จนมาถึงบ้านพี่พลก็รีบวิ่งขึ้นบ้านแล้วหาพระมาคล้องคอและเข้าห้องนอนแกทันที คนในบ้านก็พากันงง เช้ามาพี่พลนอนโทรมเป็นไข้อยู่ในห้องแม่พี่พลก็เลยถามว่าไปทำอะไรมาถึงได้เป็นไข้ พี่พลก็เลยเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้แม่ฟัง แต่แม่กลับบอกมาว่า "กล้าผ่านไปได้ยังไง ไม่มีใครเค้าผ่านไปกันหรอก โดนผีอีนวลกับลูกมันหลอกแล้วละสิ" มันถูกข่มขื่นและถูกฆ่าตัดคอ ส่วนลูกชายก็โดยฟันหน้าแหว่งด้วยมีคนพบศพถูกทิ้งอยู่ใต้สะพานนั้นแหละ เรื่องราวทั้งหมดก็มีเพียงเท่านี้ครับ

ปล.บทความนี้ทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งานศพหลาน!!

           เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณป้าของเราเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน ลุงกับป้าได้ข่าวว่าหลานชายเสียชีวิตที่จังหวัดส...